NEW YEAR’S RESOLUTIONS 2019 FOR YOUNG ADULTS

Mindset & Attitude อันต่อมา ภาพอยู่ใน db

NEW YEAR’S RESOLUTIONS 2019 FOR YOUNG ADULTS
ภารกิจปีใหม่ 2019 กับ เป้าหมายแบบผู้ใหญ่มากขึ้น

สวัสดีครับ ผมเปียง เนื่องในวันปีใหม่นี้ ผมถือโอกาสเขียน New Year’s Resolutions ของผมในปี 2019 นี้ขึ้นมา อีกไม่กี่วันแล้วนะครับ ผมคิดว่าความกล้าในการทำ New Year’s Resolutions ก็คือการยอมรับว่าตัวเองมีจุดบกพร่องอะไร แล้วพยายามหาวิธีจัดการกับมัน มันเป็นอะไรที่สวยงามมากนะครับสำหรับผม ปัญหามีทุกปีครับ ปีที่ผ่านมาก็เช่นกัน ผมอยากเอามาแชร์ให้ทุกคน เผื่อจะมีประโยชน์กับใครที่คิดเห็นอะไรคล้ายๆกับผมนะ

ลองไปดูกันว่า 2019 นี้ ผมมีประเด็นอะไรบ้าง

1. ใส่ใจกับสุขภาพการนอนให้มากขึ้น
ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ผมยอมรับตรงๆว่าผมเหนื่อยมาก มีจังหวะที่งีบแล้วเผลอหลับไปเลยเกิดขึ้นบ่อยๆ บางครั้งเปิดไฟทิ้งไว้ บางครั้งหลับคาคอมพิวเตอร์ ตื่นขึ้นมากลางดึก กับไฟห้องที่เปิดอยู่ ไม่ก็เพราะความหนาวจากการที่ไม่ได้ห่มผ้า จริงๆแล้วเป็นอะไรที่แย่มากเลยนะ position ไม่ได้ แสงไม่ได้ คุณภาพการหลับสนิทก็ไม่ได้ ไหนจะ office’s syndrome ที่รุมเร้าอีก สุดท้ายแทนที่จะนอนเต็มอิ่มก็กลายเป็นครึ่งกลางๆซะแบบนั้น ซึ่งจริงๆแล้วการตื่นเช้าจากการนอนที่ proper มันจะส่งผลดีกับสภาพโดยรวมทั้งวัน ทำให้วันต่อมาเต็มที่ได้มากขึ้น

สิ่งง่ายๆที่ละเลย เลยเอามาเป็นข้อแรกเลย ปีหน้าผมจะเอาจริงแล้ว ผมจะตั้งใจนอนในเวลาที่ต้องนอนให้มากขึ้น จะปลุกตื่นโดยไม่ต้อง snooze อีกแล้ว ผมจะพยายามครับ

2. ฝึกภาษาที่ 2 ให้เชี่ยวชาญกว่าเดิม
เป็น goal ที่สำคัญท่ีสุดของปีนี้ครับ ผมเป็นนักเรียนไทยแท้ ที่ไม่เคยแลกเปลี่ยน และไม่ได้ผ่านการเรียนในหลักสูตรนานาชาติมาก่อน แน่นอนว่าโอกาสในการ expose ต่อภาษาอังกฤษมันก็น้อยตาม ยิ่งไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องใช้สื่อสารจริงก็ยิ่งไม่เชี่ยวชาญ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องพัฒนาภาษาที่ 2 อย่างภาษาอังกฤษให้กลายเป็นเรื่องปกติ คิดเป็นภาษาอังกฤษ ให้มันกลายเป็นสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

ปีใหม่นี้ล่ะ ผมจะเริ่มจริงจังกับมันให้มากขึ้น

3. ใจเย็นลง
ผมยอมรับว่าตัวเองเป็นคนที่หงุดหงิดง่ายเวลาเจอกับเรื่องใดๆก็ตามที่ไม่สบอารมณ์ หรือ สถานการณ์แบบว่า ‘อะไรที่ทำให้คุณคิดกับสิ่งนี้แบบนี้เนี่ย!’ แม้อารมณ์จะดีขึ้นไวมากก็ตาม แต่ผมไม่ชอบช่วงเวลาที่ตัวเองกำลังหงุดหงิดเลย เพราะหลายครั้งเราไม่สามารถคุมพฤติกรรมตัวเองได้ แล้วอาจทำให้ทำอะไรที่ไม่ดีลงไปโดยไม่เจตนา

ปีนี้ผมอยากจะใจเย็นลง เมื่อไหร่ที่หงุดหงิด เมื่ออะไรมากระทบ ให้ให้อภัยเขาไปก่อน แล้วหลังจากนั้น 10 นาที ค่อยมาคิดว่าควรให้อภัยเขามั้ย มันน่าจะช่วยให้เราคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นครับ หวังว่า

4. ใส่ใจเกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอกให้มากขึ้น
ฟังดูแปลกๆ นะครับข้อนี้ อยู่ๆมาพิมพ์ว่าให้ใส่ใจกับสิ่งนอกกาย จะบอกว่าเมื่อปรับข้างในได้ ข้างนอกก็ต้องปรับด้วย สำหรับผม ผมคิดว่าการที่ใส่ใจกับรูปร่างหน้าตาให้ดูดีสมวัย สมสถานการณ์เสมอ มันเป็นข้อได้เปรียบในหลายๆเรื่องครับ เพราะ first impression เป็นสิ่งสำคัญ และความมั่นใจจะเกิดขึ้นแน่ๆ เมื่อเรารู้ว่าเราพยายามทำให้ตัวเองให้ดูดีแล้ว มันจะนำมาซึ่งความมั่นใจอื่นๆ เช่น การพูด หรือ การกระทำ ปีนี้ผมอยากจะใส่ใจเรื่องนี้ต่อๆ ไป

5. แบ่งสัดส่วนการเงิน
ปีหน้าผมอยากทำบัญชีให้จริงจังมากขึ้นครับ เพื่อที่จะได้รู้เกี่ยวกับการใช้จ่ายว่าหมดไปกับรายจ่ายแต่ละ catergory เท่าไหร่ กำหนดสัดส่วนว่าจะใช้เท่าไหร่ เก็บเท่าไหร่ ให้ที่บ้านเท่าไหร่ เอาไปลงทุนต่างๆ ผ่านกองทุน/หุ้นเท่าไหร่ ส่วนนี้ผมคิดว่าเราทำกันมาตลอดละ แต่ที่อยากเพิ่มเติมจริงๆ คือการจัดงบประมาณส่วนนึงเพื่อตอบโจทย์ ‘ของดีๆที่ต้องมี’ ไม่ว่าจะเป็น เชิ้ต เข็มขัด รองเท้า สูท tailor-made ที่จำเป็นต้องใช้ในงานต่างๆบ่อยๆ ควรมีงบแยกออกมาเพื่อใช้จ่ายส่วนนี้โดยเฉพาะเช่นกันครับ สำหรับผมมันคือการ ‘invest’ พิจารณาลงทุนกับของที่ดี มีคุณภาพ เพื่อเป็นการใช้งานระยะยาว

6. ทำทุกอย่างให้เสร็จก่อนเวลา
ปีนี้ผมตั้งใจจะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จก่อนเวลาหลายๆวันทุกงาน เผื่อกรณีที่ต้องแก้ไข เพื่อที่จะมีเวลาส่วนนึงให้เราได้ถอยจากงาน แล้วมองดูห่างๆ เพื่อให้เห็นจุดบกพร่องได้ง่ายขึ้น อยากไปถึงสถานที่นัดหมายก่อนเวลาทุกครั้ง อย่างน้อย 15-30 นาที เพื่อจะได้มีโอกาสจัดการความเรียบร้อยตัวเอง และเตรียมตัวก่อนเริ่มกิจกรรมจริง ผมอยากจะเผื่อเวลาออกเดินทางระดับชั่วโมง เผื่อในกรณีรถติด และหลงทาง คิดว่ามันจะทำให้ตัวเราดูมีความ professional มากขึ้น

7. ตั้ง goal ปลายปีต่อไป
สำหรับบางคน สิ่งที่สำคัญของ new year’s resolutions ก็คือผลที่วัดออกมาเป็นตัวเลขที่เจาะจง ซึ่งไม่ผิดเลยครับ ผมเองข้างในลึกๆก็มีตัวเลขที่ว่านะ แต่ผมไม่ได้มองว่ามันสำคัญเท่าไหร่นัก เพราะโดยปกติเรามักจะตั้งเกณฑ์ไว้เว่อร์เกินจริงนิดๆหน่อยๆ ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางทีตอนท้ายปีก็ลืมไปหมดแล้วถูกมั้ยครับ สำหรับผม ผมเก็บตัวเลขพวกนั้นไว้ข้างใน และคิดมากขึ้นถึงวิธีการที่จะพาไปสู่ตัวเลขเหล่านั้น เรียกได้ว่าต้องสนุกไปกับมัน และทุ่มเทให้มันมากซักหน่อย ในแง่ goal ของผมจะเกี่ยวกับการเรียนต่อเฉพาะทาง การทำงานในฐานะแพทย์ในสถานการณ์ใหม่ๆ และการขยายความเป็นไปได้ในตัวเพจที่เริ่มมีผู้ติดตามมากขึ้น ตัวเลขเก็บไว้ในใจ แต่วิธีการนี่สิ ยังต้องค่อยๆคิดเพิ่มไปเรื่อยๆ ปีหน้าต้องสนุกแน่ๆเลยครับ ชักตื่นเต้นแล้วสิ

8. ยืนยันที่จะคิดบวกให้มากขึ้น
ผมเป็นคนที่เลือกจะที่จะมองโลกในแง่บวกเสมอ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีเป็น ’สีเทา’ มันไม่ใช่นิสัยที่ดีในบางสถานการณ์ แต่มันทำให้ผมมีความสุขมากกว่า ผมว่าคนในโลกนี้คิดลบกันเยอะแล้วครับ เพิ่มความคิดบวกๆไปบ้างอีกนิดนึงน่าจะโอเค การคิดบวกทำให้เราเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆมากขึ้น มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น และสนุกกับ moment ขณะนั้นมากขึ้น

9. Reflect ตัวเองบ่อยๆ และ เปิดใจยอมรับทุกๆคำวิจารณ์
คนนึงที่เราอยู่กับเขาตลอดเวลา แต่เรากลับไม่ได้รู้จักเขาเท่าที่ควร ก็คือตัวเองนั่นแหละครับ ปีนี้ผมอยากจะทำ reflection ตัวเองให้มากขึ้น ว่าเราคือใคร ทำอะไร เป้าหมายของเราคืออะไร อะไรเป็นข้อเสีย อะไรเป็นจุดแข็ง แน่นอนครับ ไม่มีใครที่ดีสมบูรณ์แบบหรอกครับ เราต่างก็มีข้อบกพร่องทั้งนั้น เราแค่ต้องเลือกสิ่งที่เหมาะสมแสดงออกมา แล้วหาจุดแข็งตัวเองให้ได้ เช่นเดียวกันที่ไม่มีใครชอบโดนตำหนิหรอก แต่ถ้ามันเป็นการติเพื่อสร้าง ผมคิดว่าคำวิจารณ์คือสิ่งที่มีค่ามากที่สุด

ปีนี้ผมอยากระลึกสิ่งนี้ไว้ตลอดครับ ทบทวนตัวเองเสมอๆว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมแล้วหรือยัง ทบทวนว่าเรายังเป็นเราที่เราชอบอยู่หรือเปล่า และรับฟังทุกๆคำวิจารณ์เผื่อนำมาปรับปรุงจุดที่บกพร่อง

ปีหน้าจะมีอะไรเข้ามาอีกบ้างพวกเราไม่มีทางรู้หรอกครับ แต่ที่แน่ๆ อย่าหยุดพัฒนาตัวเองนะ เวลาและโอกาสที่เหมาะสมกับคุณมาจะเข้ามาเอง บางครั้งมันมาโดยที่เราคาดเดาไม่ได้ ดังนั้นทำตัวเองให้ดีที่สุด ทำตัวเองให้พร้อมรับโอกาสเสมอ ขนาด software ยังต้องอัพเดตตลอด ชีวิตก็เช่นกันนะ ปรับตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยล่ะ
‘Be the best version of you’

พวกเรามาโตไปด้วยกันอีก 1 ปีนะครับ

รัก, เปียง