SCARLETT Wine Bar & Restaurant

SEXY DISH: SCARLETT Wine Bar & Restaurant
Michelin Guide 2018 Recommended Rooftop Bar & French Restaurant

สวัสดีครับ ผมเปียง วันนี้ผมกลับมาอีกครั้งในช่วง SEXY DISH ช่วงที่ผมจะพาทุกท่านไปรับประทานอาหารมื้อสุดพิเศษกัน EP.4 แล้วนะครับเนี่ยจะว่าไป ครั้งนี้ผมพาไปเคาะที่ Rooftop กลางเมืองแห่งหนึ่ง ชื่อ Scarlett ครับ ที่นี่เป็นห้องอาหารฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนโรงแรมหรูย่านสีลม Pullman Hotel G Bangkok …ซึ่งดีกรีร้านนี้นี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆครับ เพราะที่นี่เพิ่งได้รับเลือกอยู่ใน The Plate Selection ใน Section French Restaurant ของ Michelin Guide 2018 ไปหมาดๆ ความพรีเมี่ยมของตัววัตถุดิบ และวิธี presentation จะน่าสนใจขนาดไหน ไหนลองตามไปดูกัน

Scarlett ตกแต่งแบบ Vogue ผสม Newyork style ที่มีความเท่ หรูหรา และ musculine ด้วยความสูงที่ชั้น 37 ทำให้สามารถชื่นชมทัศนียภาพของกรุงเทพฯ ได้กว้างไกลแบบพาโนรามา สามารถเพลิดเพลินกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และแสงสีในยามค่ำคืนได้อย่างเต็มอารมณ์ ทางเดินที่ประดับด้วยตู้เก็บไวน์อย่างดีตามทางเดิน และที่น่าสนใจมากคือ ที่นี่มีตู้ aging เป็นของตัวเองด้วยครับ ตั้งให้เห็นชัดๆกันตรงนี้ ครัวเป็นแบบเปิดโชว์ให้เห็นการทำอาหารกันแบบ real time สำหรับ Chef de Cuisine ของที่นี่ ชื่อเชฟ ซิลแวง รัวเย่ร์ (Sylvain Royer) ครับผม

ดังนั้นอาหารตัวท็อปที่นี่คงไม่พ้น dry-aged beef นั่นเอง ขอกระซิบนิดนึงว่า presentation ตอนเสิร์ฟทำเอาผมประทับใจไม่ใช่เล่นอยู่เหมือนกัน ตามไปดูในตัวอัลบั้มนะครับ และที่เด่นมากๆ อีกอย่างก็คือ ชีสหลากหลายชนิดระดับพรีเมี่ยมที่นำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศส และตัวเนื้อตัดเย็น (cold cut) ที่อร่อยมากๆ ผมประทับใจกับมื้อนี้ครับ

ข้อมูลเบื้องต้นครบแล้ว เราไปดูของจริงกันครับ

เปียง

#SCARLETTBKK
#PULLMANBANGKOKHOTELG
#SEXYDISH
#PYONGDOCTOR

มาถึงบริเวณหน้าร้านของที่นี่ จะพบสัญลักษณ์ขนาดใหญ่ที่หน้าตาเหมือนเกสรดอกไม้ สิ่งนี้เป็นตัวแทนของความ feminine ครับ แต่ตบด้วยสีแดงแบบ scarlett red ทำให้กลายเป็น feminine ที่ดูเฉี่ยว เท่ และเซ็กซี่ขึ้นไปอีกระดับ

ที่นี่ชูสีแดงเป็น gimmick พนักงานผู้หญิงทุกคนจะต้องทาเล็บแดง ปากแดง และมีปิ่นปักผมสีแดง

คนแถวๆนั้น

ตกแต่งด้วยสไตล์ที่ความเป็น industrial กลิ่นอายดิบๆ เท่ๆ จะเป็นแบบที่เห็น

ตู้ dry ageing ที่ผมพูดถึงครับ

Open kitchen นะครับที่นี่

ในส่วนของ rooftop bar จะเป็นมุมนี้ ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพเมืองกรุงเราได้สวยงามมากๆ นั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ตรงนี้ก่อน และกลับไปทานอาหารด้านใน

ยามค่ำคืน สวยงามแบบนี้

พร้อมสำหรับอาหารมื้อเย็นหรือยัง

เริ่มจาก starter เมนูชื่อ Le Crabe Royal d’Alaska หรือ สลัดขาปูอลาสก้า อร่อยแบบต้องยกนิ้วให้ครับ ขายดี รสกลมกล่อมมาก เนื้อปูหวานแบบธรรมชาติ เน้นๆ เต็มรสปู ทางร้านเป็นการตกแต่งจานด้วยซอส 3 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ ซอสมะม่วง อะโวคาโด และ มายองเยส

เมนูต่อมาเป็น Pan Fried Foie Gras หรือ ตับห่านฟัวกราส์นั่นเอง เสิร์ฟร้อนๆพร้อม rocket salad ราดด้วยซอสที่เข้ากันอย่างดี ทำมาจากน้ำผึ้ง และ ราสเบอร์รี่

แนะนำให้รู้จัก Foie Gras กันซักเล็กน้อย นี่เป็นอาหารชั้นสูงของฝั่งฝรั่งเศสเขา มีความนุ่มละมุน รสชาติกลมกล่อมแบบอธิบายได้ยาก อร่อยจนอธิบายไม่ถูก จะว่างั้นก็ได้ครับ ฝรั่งเศสเป็นผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ แต่กรรมวิธีการผลิตจะค่อนข้างน่ากลัว ลองไปเสิชดูนะ

หากพูดกันตามตรงคือตัวอาหารชิ้นนี้ไม่ได้ดีต่อสุขภาพเลยแม้แต่น้อย ไขมันสูง แคลลอรี่สูง หากทานบ่อยๆ ผมไม่แนะนำนะครับ เตือนนะ

G-Board (3 cheeses, 3 cold cuts) เสิร์ฟมาเป็นถาดแบบนี้ครับ ทางร้านให้อิสระในการเลือกชีสตามใจชอบเลย มีให้เลือกกว่า 50 ชนิด ซึ่งทั้งหมดส่งตรงมาจากฝรั่งเศส ใครที่ชอบแนวนี้ต้องฟิน เพราะนอกจากชีสแล้ว ทางร้านก็ให้เลือกโคลด์คัทเองด้วยนะ

ใครยังไม่รู้จัก cold cut ขอเล่าคร่าวๆ มันคืออาหารตัดเย็นครับ จะเป็นอะไรก็ได้ที่ปรุงสุกแล้ว พร้อมทาน หรือนำไปประกอบอาหารได้ทันที ได้แก่ ชีส ไส้กรอก แฮม เป็นต้น นิยมเอามาทำเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยแบบจานนี้ครับ

มาถึง main กันครับ ใต้ม่านควันนี้คืออะไร เปิดตัวอย่างอลังการ

ผมประทับใจกับเมนูนี้มากๆ ที่เห็นอยู่นี้คือ La Côte de Boeuf 1 Kg หรือ Australian Wagyu น้ำหนัก 1 kg เป็น Prime Rib นำเข้ามาจาก Rangers Valley ย่านที่มีชื่อเสียงอย่างมากเรื่องเนื้อ ที่ประเทศออสเตรเลีย เอามาทำเป็น dry-aged บ่มนานประมาณ 4-6 สัปดาห์ ใส่ในบ็อกซ์แบบนี้ เปิดออกมาจะเป็นควันของ smoked apple wood หอมมากครับ ก่อนจะเผยให้เห็นตัวเนื้อด้านใน รสชาติดีมาก funk มาก ของดีครับ เสิร์ฟพร้อม black pepper, blue cheese และ Bearnaise sauce

อะไรแบบนี้

ปิดจ็อบด้วยของหวาน

เผากันแบบนี้สำหรับ Grand Marnier ‘Soufflé’ เป็น Traditional French dessert บวกกับรสชาติ orange liquor เปรี้ยวๆ หวานๆ หอมกลิ่นไหม้นิดๆ

Chocolate Profiteroles ตัวนี้เป็นไอศกรีม Vanilla เสิร์ฟคู่ puff pastry ตอนแรกจะราดด้วย chocolate sauce อุ่นๆ

จบไปกับการ review สั้นๆของผม อร่อยกันมั้ยครับ

ขออนุญาตแนะนำตัวร้านนะครับ ร้านอาหาร Scarlett wine Bar & Restaurant ตั้งอยู่บนชั้น 37 ของ Pullman Bangkok Hotel G นะคะ ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 18.00 – 01.00 น. สามารถเข้าไปติดตามต่อได้ที่

https://www.facebook.com/scarlettwinebarbangkok/…
Instagram: ScarlettBangkok

Chef de Cuisine ของร้าน https://www.facebook.com/ChefSylvainRoyer/Instagram: thelegendchef

สำหรับวันนี้ผมลาไปก่อนกับช่วง SEXY DISH ครั้งหน้า ผมจะไปพาไปรับประทานที่ไหน ติดตามกันที่นี่ครับ อย่าลืมกด see first ไว้ล่ะ

เจอกันครับ

เปียง