TIPS FOR TIME MANAGEMENT

สวัสดีครับ ผมเปียงเอง นานแล้วนะครับ ที่ผมไม่ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับเคล็ดลับส่วนตัวต่างๆในการใช้ชีวิตในเป็น content ในเพจเลย มีคนถามกันมาเยอะมากๆเกี่ยวกับการจัดสรรเวลาของผม ว่าผมมีหลักการยังไง ในการทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Work Life Balance หรือสมดุลย์ในการทำงานและการใช้ชีวิต ในขณะที่ผมยังทำงานประจำอยู่ แต่ผมสามารถทำเพจไปพร้อมๆกัน และยังมี Lifestyle ต่างๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย และการดูแลตัวเอง แม้จะเป็นแค่การทำงานในช่วงปีแรกๆ แต่ผมได้ลองพยายามหาความสมดุลย์ที่ว่าด้วยการลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่ผมคิดว่าว่ามันค่อนข้างลงตัวระดับนึง และผมก็ยังมีชีวิตรอดอยู่(​ฮา)

วันนี้ผมได้เรียบเรียงเป็นบทความให้อ่านได้ง่าย เอามาแชร์เผื่อสนใจกันนะครับ แล้วพร้อมหรือยังล่ะ ไปดูข้อแรกกันดีกว่า

เปียง


Start with Priority Setting
เริ่มต้นจากการจัดลำดับความสำคัญ

สำหรับผม ผมคิดว่าการจัดลำดับความสำคัญเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการใช้ชีวิตเลยล่ะ นอกจากมันจะทำให้เราทำทุกอย่างที่เราอยากจะทำได้แล้ว มันยังทำให้สิ่งที่เราต้องทำจริงๆเหมือนโดนขีดไฮไลท์ไว้ และสิ่งที่อาจจะไม่ต้องทำก็ได้มันค่อยๆจางลงไปเองโดยปริยาย

สิ่งที่ผมให้ความสำคัญในชีวิต อย่างแรกคือ งานประจำของผม มันเป็นสิ่งที่เราจะต้องพิจารณามันขึ้นมาก่อน ขอให้เต็มที่ในเวลาที่ควรทำอย่างเต็มที่ สำหรับผมยังเป็นการทำงานในโรงพยาบาล ตรวจผู้ป่วย ราวน์วอร์ด เข้าห้องผ่าตัด เคลียร์เอกสาร หรืออยู่เวร ก็ยอมรับแหละครับ ว่ามันกินเวลาส่วนใหญ่ของชีวิตอยู่เหมือนกัน แต่ในเมื่อมันเป็นงานหลัก ในเวลาทำงานเราก็ต้องทำอย่างเต็มที่ครับ คุณก็เช่นกันนะ สิ่งดีๆ มันจะตามมาเอง เวลาที่เราทำอะไรอย่างเต็มที่

สิ่งต่อมาคือ การทำในสิ่งที่ชอบ มันเป็นเสมือนขุมพลังของพวกเรา ที่ที่เราจะกลับมาเสมอเมื่อเรามีปัญหา หรือสภาพจิตใจไม่คงที่ หรือ แม้ไม่มีปัญหา เราก็ยังกลับไปหามันได้ เหนื่อยแค่ไหน เราก็ยังอยากทำมันโดยไม่ต้องมีคนบังคับ สิ่งนี้แหละคือพลังของสิ่งที่เราชอบครับ สำหรับผมคงหนีไม่พ้นการออกไปถ่ายรูปในที่สวยๆ ทำคอนเท้นต์เพจ รวมถึงแบบที่เราๆทำกันทั่วไป เช่น ฟังเพลง ดูหนัง ออกไปช็อปปิ้ง หรือแม้แต่การเล่นโซเชียล ก็ตามปกตินั้นแหละครับ สิ่งเหล่านี้เราทำแล้วแฮปปี้ อย่าลืมแบ่งเวลาให้มันด้วย

สุดท้ายคือโหมดของการดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย ทานอาหารดีๆ ตัดผม ทำหล่อ คำว่าการดูแลตัวเองยังรวมถึงการให้เวลากับคนที่คุณรักอีกด้วย สำคัญนะครับ

จะเห็นว่าพอเราจัดลำดับ เป็น 3 โหมด เราจะเริ่มเห็นภาพต่างๆชัดเจนมากขึ้น กิจกรรมที่นอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้ มันจะถูกลดทอนลงไปเอง


Complete The Gap
เติมช่องว่าง

สิ่งที่ต้องทำ สำหรับงานหลักขอให้ใส่ในตารางไว้ทั้งหมดก่อน ไม่ว่าจะ งานประจำ การประชุม งานทานข้าวกับลูกค้า เป็นต้น สำหรับผมก็จะเป็นพวกการอยู่เวร การออกหน่วย การประจำห้องฉุกเฉิน เป็นต้น หลังจากใส่งานหลักลงไปแล้ว ต่อไปคือเวลาในการแบ่งให้กับ สิ่งที่ชอบและการดูแลตัวเองครับ

เติมช่วงว่างให้เต็มทุกอัน เพื่อให้เกิดการพักผ่อนแบบ “คิดมาแล้ว” มันจะทำให้ช่วยทำให้คุณใช้ชีวิตแบบ effective มากขึ้น เพราะมันหมายถึงการวางแผนมาแล้วว่าเราจะพักในเวลานี้ ก็ควรจะได้พักจริงๆนั่นเอง

เวลาเราลงตาราง ควรมีความจำเพาะลงไปให้มากขึ้น ถ้ามันสามารถกำหนดเวลาได้ชัดเจน การกำหนดว่าวันจันทร์เล่นฟิตเนส วันอังคารไปซื้อของ อาจไม่พอ ควรมีช่วงเวลาระบุไว้คร่าวๆด้วย ปิดท้ายก่อนนอนด้วยการทบทวนแพลนของแต่ละวัน ว่าพรุ่งนี้ต้องทำไร ต้องซ่อมแพลนไหม แทรกสิ่งที่เราทำตามแพลนของวันนี้ลงไปในตารางของวันถัดๆไป

สิ่งที่ดีอีกอย่าง คือมันทำให้เราสามารถกำหนดได้ว่าเวลาไหนคือเวลาที่เราต้องใส่ใจตัวเองให้มากขึ้น หากไม่ได้คิดว่ามันต้องมีแต่ต้น โหมดนี้มักโดนละเลยเสมอๆเวลาเราอยู่ใน hard time


Future Plan
แผนการสำหรับอนาคต

ปัจจุบันคือสิ่งที่ดีที่สุด จงทำให้เต็มที่ในปัจจุบัน สำหรับขั้นตอนต่อไปคือการมองถึงอนาคตสำหรับการกระทำของเราในตอนนี้ คืออะไร และมีความเป็นไปได้ว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหนได้บ้าง

ส่วนใหญ่เราจะทำได้ตาม PlanA นั่นแหละ แต่ถ้าเราไม่คิดเผื่อสำหรับกรณีแย่ๆเลย ปัญหาจะเกิดทันทีถ้าเกิดเราไม่ได้เตรียมตัวมา ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีแผนสำรองสำหรับทุกกรณีครับ ผมว่า บางทีแค่ B ก็ไม่พอนะ มันจะไล่ยาวไป C D E ได้เลย ถ้าเราคิดถึง worst scenario จริงๆ ลองคิดอะไรที่มันเพิ่มจากเดิมดูครับ

ผมจะมีสิ่งที่เรียกว่า 1-Month Resolutions ซึ่งก็คือ การวางเป้าหมายในเดือนที่กำลังจะถึง ว่าเราอยากจะ achieve อะไรบ้าง ทำไว้ตอนต้นเดือนของทุกเดือน หลังจากนั้นจะเป็นส่วนของ 1-trimester, 1-Year, 5-Year, 10-Year จนไปถึง Retirement Plan หรือ แผนการหลังเกษียณ ประโยชน์มันจะทำให้เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น มีพลังในการผลักดันในการพัฒนาตัวเองมากขึ้น คุณมองภาพตัวเองตอนเวลานั้นๆว่าไงบ้าง คุณมีลูกกี่คน บ้านอยู่ที่ไหน มีเงินเก็บเท่าไหร่ เป็นต้น


Try New Adventures
ลองทำอะไรใหม่ๆ

สิ่งนึงที่ผมมองว่ามันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ อยู่เสมอ ก็คือการกระโจนเข้าไปในสถานการณ์ที่แปลกใหม่ ไม่คุ้นเคย ไม่เคยทำมาก่อน สำหรับผมขอเรียกมันว่า Adventurous Lifestyle หรือการใช้ชีวิตแบบโลดโผนและท้าท้าย นิยามส่ิงนี้สำหรับผมคือการบังคับตัวเองให้ออกจาก safe zone ไปทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ชีวิตในโรงพยาบาลของผมอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆเดิมทุกวัน แต่พอมีวันหยุดซักที แม้เสาร์อาทิตย์ก็ยังมีค่าสำหรับผมนะ ผมมักจะหากิจกรรมแปลกๆทำอยู่ตลอด เช่น การออกไปเที่ยวต่างประเทศในเวลาเพียงแค่ 2 วัน การออกไปเดินถ่ายรูปในที่ต่างๆ แบบไม่มีจุดหมาย หรือการออกไปทำกิจกรรม adventure ต่างๆ รวมถึงการไปในสถานที่ต่างๆ เพื่อทำ content ที่ทุกคนกำลังอ่านกันอยู่นี้ด้วยครับ ทั้งหมดต่างก็เป็นการออกจาก safe zone ของผมทั้งนั้น

หลายครั้งเราไม่สามารถกำหนดได้หรอกครับ ว่าเราจะเจอสถานการณ์แบบไหน แต่การที่เราตอบรับอะไรใหม่ๆ ทำให้โลกของเรากว้างขึ้นมาก และ มันจะพาเราไปในที่ๆ ที่ไม่คาดคิดเสมอ ขอให้เลือกในสิ่งที่ดี สิ่งที่เรามีแรงทำไหว และเป็นสิ่งที่ไม่ทำร้ายคนอื่น ผมว่าถ้าเข้าเกณฑ์เหล่านี้ หากมีเวลาลองก้าวออกไปดูครับ ผมยุ่งขนาดนี้ยังทำได้เลย คุณก็ทำได้เหมือนกัน


จบไปแล้วครับกับเทคนิคและแนวคิดต่างๆ เป็นสิ่งที่ผมได้ปรับและลองทำส่วนตัว ใครชอบเอาไปเล่าไปแชร์ต่อได้ก็ไม่ติดเลย ใครมีอะไรมาแลกเปลี่ยน เชิญที่คอมเม้นต์ได้เลยนะ

เจอกันใหม่กับสาระดีๆครั้งหน้ากับผม PYONG Traveller X Doctor วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ

เปียง