สรุปข้อคิดในเรื่องความสัมพันธ์ของคนที่โตขึ้น
A YOUNG ADULT LOVE STORY
ใกล้ช่วงวาเลนไทน์แล้วครับ ในขณะที่เรากำลังอายุมากขึ้นเรื่อยๆ และ คนรอบๆตัวทยอยแต่งงานกันไปทีละคนสองคน ทำให้ผมย้อนมาคิดเรื่องนี้เกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น อยากจะเขียนอะไรสั้นๆออกมาแชร์กัน เผื่อว่าเราจะคิดเหมือนๆกันนะครับ จะว่าไป การโตขึ้นก็ทำให้มุมมองหลายๆอย่าง ค่อยๆเปลี่ยนไปตามกาลเวลา รูปแบบของความสัมพันธ์ก็เช่นกัน ผมคิดว่ามุมมองเรื่องนี้แตกต่างไปจากเดิมเยอะเลยครับตั้งแต่เริ่มทำงาน
มองถึงอนาคตมากขึ้น
ในตอนที่เราเป็นเด็กกว่านี้ การคบใครซักคน มันเป็นเรื่องง่ายมากๆครับ ในขณะที่ตอนนี้ เราจะมองที่อนาคตมากขึ้น ตอนแก่ไปเราอยู่กับใคร จะแต่งงานไหม และแต่งงานอายุเท่าไหร่ จะมีลูกกี่คน อาศัยอยู่ที่ไหน เกษียณแบบไหน ทำให้เราเริ่มจริงจังและชัดเจนกับความสัมพันธ์มากขึ้น ความสัมพันธ์แบบเพื่อพัฒนาต่อจึงกลายเป็นสิ่งที่เราจะคำนึงถึงความเป็นไปได้มากขึ้น
รักตัวเองมากขึ้น
โตขึ้น ประสบการณ์มากขึ้น แข็งแกร่งขึ้น ทำให้เราแคร์มุมมองของคนอื่นลดลง และเลือกมองในสิ่งที่ตัวเองมีความสุขมากขึ้นแทน หลายๆคนจะเห็นว่าจริงๆแล้ว ชีวิตในวันที่เราโตขึ้น เราต่างมีชีวิตเป็นของตน และต้องสู้กับภาระหน้าที่ที่แตกต่างกัน มันเป็นไปไม่ได้เลยครับ ที่เราจะเก็บคนทุกๆคนไว้ในชีวิต สุดท้ายคนที่เหลืออยู่นั่นแหละ คือคนที่เราควรแคร์จริงๆ จริงๆมีเยอะนะครับ ลองหันกลับมาดูดีๆ
เวลาไม่ใช่สิ่งที่สำคัญในทุกกรณี
หลายเคสคู่รักที่ไม่ได้เจอกันบ่อยมากนัก แต่ก็ยังรักกันดี ปัจจัยหนึ่งก็เพราะว่า เวลาที่เขาเจอ มันคือ Quality Time นั่นเอง เวลาที่คน 2 คนจะให้ความสนใจกันอย่างเต็มที่ ไม่ต้องคิดเรื่องงาน หรือเรื่องโซเชียล แต่เป็นการใช้เวลาที่มีความสุขร่วมกันเพื่อเติมเต็มกันและกัน บางที Quality Time เนี่ยแหละ กลายเป็นสิ่งที่เราอยากได้มากกว่าอะไรทั้งหมด
บริบทของแต่ละคนต่างกัน
เวลาของแต่ละคนไม่เท่ากันครับ และความต้องการของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน สำหรับบางคนต้องทำงาน 12 – 15 ชั่วโมง ต่อวัน เพียง 10-20 นาที ที่มีให้กัน ก็อาจจะถือว่ามากแล้วก็ได้ และทั้งคู่ก็อาจจะโอเคในจุดนั้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตกลงกัน เข้าใจในบริบทของกันและกันมากกว่า จุดที่ทั้ง 2 คนตกลงแล้วรู้สึกว่าอยากทำ ในเมื่อมันใช่ ก็ไม่มีอะไรที่ต้องพยายาม
ความชัดเจนในความสัมพันธ์
การตกลงให้ชัดเจน ว่าความสัมพันธ์ของคน 2 คนอยู่ในจุดไหน เป็นเพื่อน FWB คนคุยกัน หรือ แฟน ทำให้เรารู้ทิศทางของความสัมพันธ์ และวางตัวได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ส่วนตัวคิดว่าเป็นสิ่งที่ควรทำครับ
เคารพในความเป็นส่วนตัว
เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญ และมักจะพลาดกันบ่อย ยอมรับว่าหลายเคสมันก็มีปัญหาจริงๆ แต่เคสดีๆส่วนมาก สิ่งที่ทำให้ทุกอย่างเข้มแข็งขึ้น ก็คือการเคารพในความเป็นส่วนตัวของกันและกัน เชื่อใจในสิ่งที่ควรจะเชื่อใจ ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องเล็ก ซึ่งรังแต่จะกวนใจเราเปล่าๆในเวลาที่ควรมีความสุข
ความสัมพันธ์ที่ดี เริ่มจากการมีเหตุและผล
ส่วนตัวยังเชื่อว่าทุกปัญหามันต้องมีสาเหตุของมัน ซึ่งถ้าเข้าใจมันจริงๆ จะทำให้เราอารมณ์เสียกับมันน้อยลง และเข้าใจกันและกันมากขึ้น ในหนึ่งประเด็นที่เถียงกัน ปกติแล้ว คนผิดมักไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทั้งหมด ฟังเหตุผลของกันและกันให้มากขึ้น และยอมรับให้ได้ว่าบางที มันไม่จำเป็นต้องเป็นสีขาวหรือสีดำในทุกครั้ง สีเทาก็สวยเหมือนกันในสถานการณ์ที่เหมาะสม ผมว่าผมชอบมากกว่าที่จะนั่งเคลียร์ปัญหาที่เกิดด้วยอารมณ์ที่เป็นกลาง อะไรที่ปรับได้ เดินคนละครึ่งทางน่าจะแฟร์ที่สุด
เรื่องงี่เง่า ที่ไม่งี่เง่าสำหรับอีกคน
เคยได้ยินมาหลายครั้งเกี่ยวกับประเด็นเล็กๆ ที่สุดท้ายกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องเลิกรากันไป ประเด็นเล็กๆ ที่สำคัญกับฝ่ายหนึ่งมาก แต่อีกฝ่ายไม่ได้มองว่ามันสำคัญ และก็ยังทำมันซ้ำๆอยู่เรื่อยๆ อาจจะเป็นปัจจัยของการอยู่ด้วยกันครับ ถ้าคิดว่าไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง มันก็เป็นเป็นเหตุผลที่ดีนะ ที่จะปรับตัวเองเล็กน้อย ให้อะไรๆ มันตรงกันมากขึ้น บางทีความสัมพันธ์ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้รับในสิ่งที่เขาต้องการมันจริงๆ อย่างที่บอก บางคนไม่ได้ต้องการการ์ดทำมือสวยๆ เขาแค่อยากได้ดอกกุหลาบดอกเดียวโง่ๆ แบบที่คู่อื่นเขาให้กันเท่านั้นเอง
มีอะไรแลกเปลี่ยนกันในคอมเมนต์นะ คิดว่าข้อไหนคิดตรงกันบ้างครับ อ้อ เกือบลืมไปละ สุขสันต์เดือนแห่งความรักนะครับทุกคน
เปียง