EKKAMAI EARLY BIRD

เดินสำรวจเอกมัยในช่วงเช้าวันหยุด

สวัสดีครับ ผมเปียง ยังจำกันได้หรือเปล่าครับ ว่าหนึ่งในกิจกรรมที่ผมชอบทำมากในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ที่ผมมีเวลาว่างคืออะไร หลายๆคนที่ติดตามกันมาซักพักจะรู้ว่าหนึ่งในนั้นก็คือการเดินเตร็ดเตร่ไปตามท้องถนนในย่านต่างๆของกรุงเทพฯนั่นเอง เพราะผมเป็นคนที่ชอบถ่ายตึกและวิถีชีวิตคนมากๆ จึงรู้สึกสนุกเสมอกับ explore ย่านใหม่ที่ไม่เคยเดินสำรวจมาก่อน ถึงขนาดมีช่วงของเพจที่ชื่อ BANGKOK EXPLORE ขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

วันนี้ผมอยู่ที่ย่านเอกมัยครับ ย่านที่ใครหลายๆคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ยืนคู่กับซอยทองหล่อ ในแง่ของ Night Life และร้านอาหาร Stand Alone โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่นเกรดพรีเมียม แต่ขอพักเรื่องนั้นไว้ก่อนครับ เพราะในย่านกึ่งประวัติศาสตร์สุดคลาสสิคแห่งนี้ ยังมีอะไรที่ลึกซึ้งอีกหลายอย่าง มาพร้อมด้วยเรื่องราวให้ชวนเล่าต่ออีกมากมายที่อัดแน่นกันอยู่ที่นี่ โจทย์ของผมคือการพาทุกคนไปทำความรู้จัก เอกมัย ให้มากขึ้นครับ

ย่านนี้เต็มไปด้วยบ้านเรือนอาคารเตี้ยๆดีไซน์แบบเก่า ตึกแถวโบราณ แทรกด้วยโรงแรมเล็กๆที่บริการกันแบบครอบครัว มีรั้วชิดติดกัน ต้นไม้ต่างๆที่ยังคงถูกอนุรักษ์ไว้เป็นร่มเงา แม้จะเต็มไปด้วยตึกใหม่ที่สร้างขึ้นแซมอาคารหลังเก่าที่ยังมีอยู่เป็นระยะๆก็ตาม ‘คึกคักแต่ก็ยังดูสงบอยู่’ คงเป็นคำนิยามของย่านนี้ ความผสมผสานของที่อยู่อาศัยและย่านธุรกิจนี้ เป็น combination ที่น่าสนใจครับ ที่นี่จึงมีบรรยากาศเฉพาะตัว ที่ไม่เหมือนกับย่านไหนๆ

เกริ่นมาขนาดนี้ พร้อมที่จะเดินทางไปกับผมแล้วใช่ไหมครับทุกคน ขณะนี้เวลา 7 นาฬิกา ในเช้าวันเสาร์ ผมทดลองทำตัว Early Bird มาใช้ชีวิตในย่านนี้ กับกิจกรรมชิลๆ ในมุมต่างๆ ตั้งแต่การทานอาหารเช้า ดริปกาแฟ ไล่ไปจนการเดินถ่ายรูปไปรอบๆ

ไปดูกันว่าผมได้อะไรมาบ้าง

เปียง

#APThailand
#PYONGDOCTOR

FACEBOOK – PYONG Traveller X Doctor
INSTAGRAM – pycaptain
YOUTUBE CHANNEL – PYONG : Traveller X Doctor
TWITTER – @pyongdoctor
WEBSITE – www.pyongtravellerxdoctor.com

Director – Kantaphong Thongrong
Assistant Content Creator & Assistant Photographer – Amarin Laohajirapan


เปิดภาพด้วยสถานที่ที่ทุกคนจะจำได้ทันทีเมื่อพูดถึงคำว่า ‘เอกมัย’ ที่นี่คือท้องฟ้าจำลองนั่นเองครับ สถานที่ทัศนศึกษาที่เด็กกรุงเทพฯและปริมณฑลต้องเคยไป เลือกภาพนี้เพราะคิดว่าน่าจะแสดงถึงความเป็นเอกมัยได้ชัดที่สุด


ย่านเอกมัยแบ่งออกเป็นสามช่วงด้วยกัน คือ เหนือ กลาง และใต้ ผมอยากจะเล่าให้ทุกคนฟังทีละส่วนเพื่อที่จะได้รู้จัก เอกมัย มากขึ้นนะครับ ผมขอเริ่มจาก เอกมัยตอนใต้ก่อน ส่วนนี้คือฝั่งที่ใกล้กับ BTS เอกมัย ถือว่ามีความหนาแน่นของกิจกรรม เพราะเดินทางสะดวกมาก มีผู้คนหมุนเวียนมาตลอด ซอยระแวกใกล้ๆนี้เป็นบ้านเรือน เช่น ซอยเศรษฐบุตร ถัดมาคือ เอกมัยตอนกลางครับ ความคึกคักจะอยู่ในช่วงนี้เลย ร้านอาหาร คลับบาร์ และคาเฟ่ต่างๆ เป็นสถานที่ยอดนิยมของคนกรุงเทพ และเพราะเอกมัยตอนกลาง ได้เชื่อมต่อกับทองหล่อและซอยปรีดี พนมยงค์ 31 นี้เอง ทำให้เอกมัยตอนกลางนี้ กลายเป็นศูนย์กลางกิจกรรมและแหล่ง Hangout ต่อมาในส่วนสุดท้าย เอกมัยตอนเหนือ จะติดไปทางถนนเพชรบุรี ซึ่งจะแบ่งเป็นสองฝั่ง คือฝั่งเลขคี่และคู่ ซอยที่เป็นเลขคี่นั้นจะคึกคักกว่ามาก เพราะยังมองเห็นร้านอาหารและการบริการต่างๆ ได้อย่างชัดเจน เพราะฝั่งนี้จะเชื่อมกับทางฝั่งทองหล่อ ส่วนอีกฝั่งนั่นก็คือซอยเลขคู่จะยังไม่ค่อยเห็นการเปลี่ยนแปลงมากเท่าไร ส่วนใหญ่เป็นซอยแคบและไม่ทะลุถึงกัน เป็นการเกาะกลุ่มของชุมชนเก่าๆของที่เอกมัยแห่งนี้


วันนี้ผมจะพาทุกคนไปเดินรอบๆในย่านนี้แต่เช้ากันครับ กึ่งสำรวจ กึ่งชิล ลองค่อยๆตามผมไปกัน


สิ่งหนึ่งที่ช่วยยืนยันการเติบโตของเอกมัยได้เป็นอย่างดี คือราคาประเมินสำหรับที่ดิน เพราะว่าถ้านำมาเปรียบเทียบราคากัน เอกมัย ก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าซอยอื่นเลย และยังโตเร็วมากๆ เรียกได้ว่า เติบโตเร็วเป็นอันดับต้นๆ


อย่างที่ผมเล่าไป ย่านนี้เต็มไปด้วยบ้านเรือนอาคารเตี้ยๆดีไซน์แบบเก่า ตึกแถวโบราณ แทรกด้วยโรงแรมเล็กๆที่บริการกันแบบครอบครัว เป็นย่านที่ชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่มาก เนื่องจากในยุคสมัยสงครามโลก บริเวณนี้เป็นย่านที่มีกองทัพญี่ปุ่นผ่านและมาตั้งเป็นฐานทัพไว้ จึงกลายเป็นชุมชนของคนญี่ปุ่นที่นี่ คงเป็นสาเหตุที่อะไรๆก็ดูญี่ปุ่นไปหมด ตั้งแต่ Getway Ekkamai ที่ร้านรวงและการตกแต่งเป็นสไตล์ญี่ปุ่นไปจนถึงร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีให้เลือกหลากหลาย


บ้านเรือนสลับกับอาคารสูง


7 a.m
ผมเริ่มจากที่นี่ก่อนครับ สถานีขนส่งเอกมัย เป็นขนส่งภาคตะวันออก ผมยังจำได้ดีเลยครับ สมัยตอนเรียน เวลาจะไปทะเลแถบตะวันออกไกลๆอย่างพวกตราดกับเพื่อนๆ ตรงนี้แหละคือคำตอบ เพราะมันง่าย และราคาไม่แพงมาก ติดกับ BTS เอกมัย ทำให้ง่ายต่อการเดินทาง สำหรับใครต้องการไปทะเลใกล้ๆ และไม่อยากขับรถ ตอนนี้ก็ยังตอบโจทย์อยู่


ดำเนินการมานานแล้วนะครับ เปิดทำการตั้งแต่ปี 2503 และยังคงให้บริการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เป็นบรรยากาศแบบคลาสสิคครับ ลองมองย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 60 ปีก่อน ที่นี่แบบนี้ ที่ทุกอย่างเป็นของใหม่ก็ดูว้าวอยู่นะครับ


ปัจจุบันดูโทรมไปเยอะ แต่บรรยากาศแบบนี้ดูๆไปก็คลาสสิคดีเหมือนกัน


อะไรแบบนี้ ผมว่ามันไม่สามารถหาได้ง่ายๆ ในโซนเมืองทั่วไปเท่าไหร่


มีคน photobomb ผมด้านหลังครับ


มองให้เท่ อะไรก็เท่ครับ


ก่อนไปที่อื่นมาแวะทักทายจ่าเฉยกันซักหน่อย พี่แกน่ารักดีนะครับ


เดินเข้าไปในซอยเอกมัยกัน แวะหาร้านกาแฟดีๆซักร้าน


คลาสสิคอีกแล้ว กระเบื้องแบบนี้


ใกล้ถึงร้านกาแฟของเราแล้ว


9 a.m.
ผมเจอที่นี่ครับ Ink & Lion สำหรับใครที่ชอบกาแฟ drip น่าจะชอบที่นี่ บาริสต้าสามารถให้ความรู้และเรื่องราวของกาแฟได้เป็นอย่างดี มีความพิถีพิถันในการ drip ในแต่ละครั้ง กับเมล็ดกาแฟที่คัดสรรค์มาจากแหล่งผลิตโดยตรง


อีกสิ่งหนึ่งที่ร้านนี้แสดงถึงเอกลักษณ์ได้อย่างน่าสนใจ คือเรื่องของ ‘ศิลปะ’ ที่นี่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้นำผลงานออกมาสู่พื้นที่สาธารณะ เพราะตัวร้านเองไม่ได้ต้องการทำหน้าที่เพียงขายกาแฟอย่างเดียวแต่สามารถใช้พื้นที่ในการแสดงผลงานศิลปะของตัวเอง เสน่ห์ของความลงตัวจากกาแฟและศิลปะมันน่าหลงใหลมากๆครับ


ชื่นใจ


9.30 a.m.
ต่อกันด้วย Quiant Bangkok ผมตั้งใจจะทานเป็น brunch ที่นี่ หากใครผ่านไปผ่านมาในซอยนี้ คงจะสะดุดตากับสถาปัตยกรรมที่ดูเรียบ เท่ แต่ แอบแฝงไว้ด้วยเสน่ห์แห่งกาลเวลาของที่นี่ครับ


Quiant Bangkok เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการจัดอีเวนท์ โดยเฉพาะ งานแต่งงาน เพราะที่นี่มีการตกแต่งอย่างสวยงามอยู่แล้ว พร้อมด้วยบรรยากาศดีดี ที่สำคัญเดินเท้าแค่ 5 นาที จาก BTS เอกมัยก็ถึงแล้ว


พอผมได้ลองก้าวเข้ามา ผมประทับใจมาก กับสไตล์ไม่ว่าจะเป็น Industrial Classic หรือ Loft ผสมผสานกันอย่างลงตัวมากๆ ภายนอกร้านก็ยิ่งสวยได้อีกอารมณ์เลย


Event Hall โซนลานกว้างบริเวณชั้นสามของร้านที่ดีไซน์มาเพื่อเป็นโซนจัดงานแบบอเนกประสงค์โดยเฉพาะ พื้นที่กว้างขวางมาก แถมยังสามารถแต่งเติมดีไซน์ได้หลากหลายไม่มีข้อจำกัดด้วย จากบริเวณที่กว้างพอสมควรและมีส่วนที่เป็นพื้นเวทียกขึ้นมา ทำให้ดูมีมิติมากขึ้นในการจัดงาน ที่สำคัญ แสงธรรมชาติ ที่ตกลงมากระทบภายในห้องทำให้ห้องยิ่งดูสวยเข้าไปอีกครับ


Mezzanine พื้นที่บริเวณชั้นสอง เพียงเดินผ่านบันไดของร้านที่มีความเก่าแก่ คลาสสิค แต่ยังคงไว้ มีขนาดเล็กกะทัดรัดและเป็นส่วนตัว เหมาะกับการจัดดินเนอร์เล็กๆ ที่มีแต่เพื่อนๆเรา คนสนิท มันเหมาะมากเลยครับ


แน่นอนครับ ผมไม่ได้มาแต่งงานหรือมางานแต่งแต่อย่างใด วันนี้เรามาทาน brunch กัน ที่นี่เป็น craft breakfast นะครับ ‘the simple but fabulous brunch energy booster and most of all it is vegetarian friendly’ ดูน่าทานทุกเมนูเลย ผมเป็น avocado lover ดังนั้นไม่พ้นที่เห็นอยู่นี้ ‘Healthy Avocado’


10 a.m.
ย้อนกลับมาที่นี่เพราะได้เวลาเปิดพอดี ยินดีต้อนรับเข้าสู่ท้องฟ้าจำลองนะครับ


สมัยเด็กๆ การทัศนศึกษานอกสถานที่เป็นช่วงเวลาที่ผมรอคอยมาตลอดทั้งปี แล้วท้องฟ้าจำลองเป็นสถานที่ในฝันของผมในวัยเด็กครับ จำได้ว่าทุกครั้งที่มาจะตื่นเต้นกับทุกๆสิ่งที่นี่ ขนาดตัวผมเองเคยเข้ามาที่นี่แล้ว ตอนนี้ตัวผมเองก็ยังไม่อยากกลับบ้านเลย ไว้มาหาอีกนะ


สร้างเมื่อราวๆ 60 ปีก่อน ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่ตัวอาคารโดยรวมจะดูเก่าๆ แบบนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ที่นี่ก็ยังทำหน้าที่ของมันได้อย่างครบถ้วนน่าประทับใจเหมือนเดิม และเด็กยุคใหม่ก็ยังต้องมาทัศนศึกษาอยู่เหมือนเดิม ท้องฟ้าจำลองสร้างขึ้นเพื่อนำเสนอภาพท้องฟ้าตอนกลางคืน เพื่อความบันเทิงส่วนหนึ่ง และสำหรับคนที่สนใจด้านดาราศาสตร์ โครงสร้างภายในของที่นี่ ส่วนใหญ่เป็นรูปโดมขนาดใหญ่ ซึ่งในนั้นจะมีเครื่องฉายดาว เราจะสามารถเห็นดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ และวัตถุท้องฟ้าต่างๆ โดยเฉพาะการเคลื่อนที่ของดวงดาวบนท้องฟ้าหรือในจักรวาล โรแมนติกมากเลยนะครับถ้าพาแฟนไปดูด้วยเนี่ย


กัปตันเปียง พร้อม


อะไรแบบนี้ ถ้าเป็นตอนเด็กคงต้องวิ่งเข้าไปแล้วนะครับ


เดินย้อนกลับมา ผ่านดองกิโฮเต้ เอกมัย สาขาเปิดใหม่ที่หลายๆคนกำลังพูดถึงกัน เลี้ยวขวาจะเจอสิ่งนี้ครับ Sale Gallery ของ RHYTHM EKKAMAI ESTATE ผมขอคั่นโฆษณานะครับ ที่นี่คอนโดใหม่ในย่านนี้ที่มีการออกแบบเพื่อตอบโจทย์ที่ว่า ‘ทำอย่างไร จึงจะทำให้การอาศัยบนคอนโด รู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้านมากที่สุด’ คอนเซปน่าสนใจ เราไปดูบรรยากาศห้องด้านในกันนะครับ


บรรยากาศในห้องครับ จะเห็นว่ากว้างใหญ่มากๆ ดูแบบนี้เหมือนภาพถ่ายภายในบ้านเลย แปลนหน้ากว้าง เริ่มที่ 1 ห้องนอน 35 ตร.ม. นอกจากนี้โครงการยังตอบโจทย์เรื่องนี้โดยการเพิ่มพื้นที่ส่วนกลางและ Facility ต่างๆให้รู้สึกเทียบเท่ากับบ้านจริงๆ เช่น Floating Lobby กับวิวสวยๆที่ชั้น 7 ซึ่งมีส่วนกลางเชื่อมต่อกัน ถึงล็อบบี้ชั้น G พร้อมห้องดูหนัง ห้องทำงานในหลายโซน ห้องรับแขกส่วนตัว Tea Pavilion ส่วนกลางของ Top Floor มี 3 ชั้น พร้อมสระว่ายน้ำ 360 องศา และอีกมากมายครับ


บรรยากาศโซนครัวแบบใกล้ๆครับ ผมชอบนะ มันกว้าง แบ่งโซนชัด ไม่อึดอัด ให้ความรู้สึกเหมือนกับอยู่บ้าน


ห้องนอนก็เช่นกัน มี space ใช้สอยค่อนข้างกว้างครับ


ด้วยคอนเซปแบบนี้ บรรยากาศในเมือง กับทำเลที่เป็น Prime Location ใกล้กับทุกๆอย่าง และสามารถทะลุถึงทองหล่อได้ เห็นแล้วก็อยากจะมีเองซักห้องเหมือนกันนะครับเนี่ย


ก่อนจะแยกย้ายกันไป ผมว่าเราไปจบกันที่นี่ดีกว่าครับ Dogintown


คาเฟ่ของคนรักหมาครับ ด้วยคอนเซ็ปต์ของทางร้านที่ว่า ‘เพื่อนมาเที่ยวบ้านเพื่อน’ คือการส่งต่อความสุขให้กับลูกค้าด้วยความเป็นกันเองสำหรับคนที่มาที่นี่ครับ


คนสวยง่วง รู้หรือไม่ น้องหมาที่นี่ถูกตั้งชื่อตามสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งหลักการคือ ตัวไหนเหมาะกับสถานีไหนถึงจะเรียกแบบนั้น เช่น น้องอารี น้องสำโรง เป็นต้น โดยทางร้านจะให้น้องหมาออกมาวิ่งเล่นอย่างเต็มที่กันทุกๆชั่วโมง น้องในภาพชื่อ น้องอารีครับ


ส่วนเรื่องของการดูแลน้องๆ ทางร้านดูแลดีมากเลยครับ อย่างแรก เราต้องถอดรองเท้าก่อนเข้ามาและล้างมือก่อนที่จะเข้ามาด้วย ภายในร้านไม่มีกลิ่นเหม็นของน้องหมาแม้แต่นิดเดียวเลยครับ ความสะอาดนี่ต้องยกให้เลยจริงๆ เราสามารถเข้าไปสัมผัสน้องหมาได้เลย แต่ก็ต้องตามกฏกติกาของทางร้านด้วยนะครับ เพื่อความปลอดภัยของเราและน้องหมา


จบไปแล้วนะครับ กับการเดินเล่นสั้นๆในครึ่งวันเช้าของผม อย่างที่ผมบอกครับ บรรยากาศของที่นี่มีความพิเศษ ‘คึกคักแต่ก็ยังดูสงบอยู่’ มีความหลากหลายและครบในทุกๆมิติ เป็นอีกที่ที่ผมถ่ายรูปสนุกครับ รู้สึกเอนจอยมากๆในเช้าวันเสาร์แบบนี้ครับ

วันนี้ผมขอตัวลาไปก่อนครับ ฝากแชร์คอนเทนต์ และอย่าลืมกด see first เพื่อไม่ให้พลาดโพสต์ต่อๆไปนะครับ

เจอกันครับ

รัก, เปียง

#APThailand
#PYONGDOCTOR

FACEBOOK – PYONG Traveller X Doctor
INSTAGRAM – pycaptain
YOUTUBE CHANNEL – PYONG : Traveller X Doctor
TWITTER – @pyongdoctor
WEBSITE – www.pyongtravellerxdoctor.com

Director – Kantaphong Thongrong
Assistant Content Creator & Assistant Photographer – Amarin Laohajirapan