THANN WELLNESS DESTINATION
The sanctuary for artistic life and thorough well-being
โรงแรมแนวคิดใหม่กับนิยามการพักผ่อนแบบองค์รวม
สวัสดีครับ ผมเปียง ในช่วงเวลาที่ผ่านมา การเดินทางไปพักในโรงแรมใด ๆ มักจะนำมาซึ่งประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่มีความคล้ายกัน แต่ที่ไม่ซ้ำกัน สำหรับสถานที่ที่ผมกำลังจะเล่าให้ฟังครั้งนี้ ค่อนข้างแตกต่างจากครั้งไหน ๆ เพราะที่นี่สร้างทั้งความรู้สึกผ่อนคลาย สงบ อร่อย สดชื่น และเหนื่อยจากการออกกำลังกายไปด้วยพร้อม ๆ กัน เมื่อโรงแรมไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนที่นอน แต่ยังเป็นสถานที่สำหรับชาร์จพลังงานดี ๆ กับตัวเอง ฟื้นฟูพลังกายและใจให้กลับมาเต็มหลอดในช่วงวันหยุดสั้น ๆ THANN Wellness Destination สร้างประสบการณ์แบบใหม่ที่ฉีกภาพเดิม ๆ ของโรงแรม ด้วยสถานที่พักผ่อนรูปแบบพิเศษ ที่ผมอยากชวนทุกคนไปชมกันครับ
จาก Luxury day spa สู่ Luxury spa destination
THANN แบรนด์สปาไทยชื่อดังระดับ global ที่ได้รับเลือกให้เป็น amenities ของสายการบินและโรงแรมระดับ 5 ดาวต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงโรงแรมในเครือ Marriott ขณะนี้รวมระยะเวลากว่า 19 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2002 ที่ THANN ก้าวเข้ามาอยู่ในธุรกิจนี้ จนโด่งดังในระดับโลกเช่นนี้ ความน่าสนใจของแบรนด์คือการสร้าง customer journey แบบใหม่ ด้วยการทุ่มงบประมาณมหาศาลในการทำธุรกิจโรงแรมแห่งแรกของแบรนด์ มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ wellness ภายใต้การบริการและผลิตภัณฑ์ที่ curate มาอย่างดีสำหรับทุกคน
ความน่าสนใจคือโดยปกติแล้ว หากเราจะไปพักที่โรงแรมที่ไหนสักแห่ง เราจะนึกถึงการพักผ่อนและสถานที่เที่ยวรอบ ๆ เป็นหลัก แต่ต่างจากที่นี่ที่ตั้งใจให้คนที่จะมาพักผ่อน “อยู่แค่ในโรงแรมก็เพียงพอ” ด้วยกิจกรรม wellness หลากหลายจนสามารถทำได้ทุกอย่างไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เช็คอินยันเช็คเอาท์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ปรารถนาที่จะฟื้นฟูสุขภาพกาย อารมณ์ รวมทั้งจิตใจ แบบองค์รวมด้วย 6 องค์ประกอบ ตั้งแต่ สถานที่ที่สะดวกสบาย ธรรมชาติอันบริสุทธิ์ อาหารที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ การออกกำลังกายที่เหมาะสม การนวดเพื่อความผ่อนคลาย รวมถึงศิลปะความงามอันจรรโลงใจ
โดดเด่นด้วยการออกแบบอาคารและตกแต่งแบบ Thai Contemporary ที่หยิบจับเรื่องราวต่าง ๆ ของแบรนด์ และหลักคติคำสอนทางพระพุทธศาสนามาเป็นตัวเล่าเรื่องโดยรวม คู่เคียงไปกับพื้นที่สีเขียว ไร่นา และแม่น้ำน้อย อยุธยา สร้างเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครในเวิ้งพื้นที่กว้างสุดลูกหูลูกตาในอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สถาปัตยกรรมผสมผสาน ตัดกันแบบแรง ๆ ด้วยความเป็นไทยและตะวันตก เสริมด้วยแนวคิดแบบ futuristic ที่อยู่ด้วยกันได้แบบลงตัวในโรงแรมแห่งนี้ครับ ถือว่าให้ความตื่นตาตื่นใจได้มากกับ Tree House ที่หน้าตาเหมือนยานอวกาศ บ่อน้ำร้อนแบบ unisex กับหน้าต่างทรงกลมสมมาตร รายล้อมด้วยวัสดุธรรมชาติ เจดีย์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะยุคสุโขทัยและอยุธยาที่ผุดขึ้นมาจากกลางน้ำ หรือ สระว่ายน้ำกลางแจ้งในวิว infinity edge pool ของแม่น้ำ ภายใต้หลังคาทรงโค้งปกคลุมด้วยเถาไม้เลื้อย แต่ละองค์ประกอบมีความโดดเด่นและน่าค้นหามาก ๆ สำหรับสถานที่แห่งนี้ครับ
ร้อยเรียงเรื่องราวผ่านแง่มุมต่าง ๆ ในโรงแรม พร้อมกับกิจกรรม wellness ต่าง ๆ ที่ยกทัพมาเติมเต็มวันหยุดเพื่อเติมพลังให้เราแบบไม่เหมือนที่ไหน เราลองเข้าไปชมข้างในกันครับ
เปียง
#STAYCATIONINGWITHPYONG
#PYONGDOCTOR
#THANNWELLNESSDESTINATION
Director – Kantaphong Thongrong
Content Creator & Assistant Photographer – Pratchawin Sara
FACEBOOK – PYONG Traveller X Doctor
INSTAGRAM – pycaptain
THANN WELLNESS DESTINATION
The sanctuary for artistic life and thorough well-being
โรงแรมแนวคิดใหม่กับนิยามการพักผ่อนแบบองค์รวม
THANN Wellness Destination
เป็นช่วงเวลาดี ๆ ของเดือนนี้ ที่ผมอยากแนะนำสถานที่ที่พูดได้เลยว่าควรค่าแก่การมาฟื้นฟูร่างกายและจิตใจกับโรงแรมที่เน้นด้าน wellness ระดับแถวหน้า ซึ่งกว่าจะเป็น THANN Wellness Destination ในวันนี้ ผ่านกระบวนการคิดสร้างสรรค์ มาอย่างเข้มข้น กว่าจะเป็นอย่างที่ผมกำลังจะพาทุกท่านเข้าไปชมกัน ก่อนอื่นคงต้องขอย้อนเรื่องราวถึงตัวแบรนด์ ทำความรู้จัก THANN กันเสียก่อน ว่าจริง ๆ แล้ว THANN คืออะไร มีที่มาที่ไปอย่างไร ทำอะไร และกำลังจะก้าวไปต่ออย่างไรในอนาคต ตามผมมา กับเรื่องราวของแบรนด์ระดับโลกของคนไืทย THANN และอีกก้าวย่างที่สำคัญกับ THANN Wellness Destination ครับ
THANN ชื่อไทย แบรนด์ไทย ที่ดังในระดับ global
ธุรกิจหลักของ THANN คือ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางจากธรรมชาติ ของใช้ในห้องน้ำ ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิว ของหอม สปา ที่มีสาขาทั่วโลก เสื้อผ้า เครื่องประดับ และพิเศษสุดที่เป็นที่กล่าวถึงกันในกลุ่มที่รักการพักผ่อนและการดูแลสุขภาพ นั่นก็คือ “THANN WELLNESS DESTINATION” โรงแรม และ day spa ระดับโลก ที่น่าจับตามองมากที่สุดที่ควรค่าแก่การมาเยือน ซึ่งผมกำลังจะพาทุกท่านเข้าไปสัมผัสกันอย่างละเอียดในคอนเทนต์นี้ครับ
ผลิตภัณฑ์ของ THANN ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ และ amenities หรือ ของใช้ภายในห้องน้ำ ทาง THANN ได้ทำการ collab หรือ supply ให้กับโรงแรมและสายการบินทั่วโลก ภายใต้โลโก้ของแบรนด์ THANN เช่น Japan Airlines , Qantas , Gulf Air , Saudi Arabian Airlines (Saudian Airlines) ANA All Nippon Airways , Thai Airways และ Bangkok Airways ในชั้น Business
ในส่วนของโรงแรม เฉพาะในประเทศญี่ปุ่น มีโรงแรมที่ไว้วางใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ THANN มากกว่า 50 โรงแรม และสำหรับโรงแรมในเครือ Marriott THANN ได้ถูกเลือกให้เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องใช้ในห้องพัก ถึง 3 ทวีปทั่วโลก เช่น Latin America , North America และ Asia พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าใครเดินทางไปท่องเที่ยวบ่อย ๆ ขึ้นเครื่องก็เจอ THANN บนเครื่อง เข้าพักโรงแรม ก็ได้ใช้ของของ THANN แถมไปเดินห้างสรรพสินค้า ก็เจอ THANN ในห้างอีกด้วย เข้าถึงไลฟ์สไตล์เราแทบจะหมดทุกอย่างจริง ๆ ครับ มั่นใจว่าหลาย ๆ คนคงผ่านกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ THANN มาแล้วไม่มากก็น้อยครับ
เป็นเวลากว่า 19 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2002 ที่ THANN ก้าวเข้ามาอยู่ในธุรกิจนี้ จนโด่งดังในระดับโลก ปัจจุบัน shop ของ THANN มีมากกว่า 60 สาขา และวางจำหน่ายใน Duty Free Channel ตามสนามบินต่าง ๆ ทั่วโลก อีกทั้งยังมีสปาใน 14 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย
THANN หรือ ธัญ จริง ๆ แล้ว คือคำไทย ๆ ที่ผู้ก่อตั้งและเจ้าของ คุณโอ๋ ฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ first idea เมื่อแรกเริ่มก่อตั้งแบรนด์ THANN จากธุรกิจ SME อยากที่จะใช้คำที่จดจำง่าย เป็นคำไทย สั้น ๆ ไม่ยาวจนเกินไปจนเกินความสามารถในการจดจำ เป็นชื่อที่คนไทยก็ออกเสียงได้และต่างชาติก็ออกเสียงได้ ไม่มีความหมายไปในเชิงขบขันในภาษาต่าง ๆ และต้อง represent สิ่งที่ THANN ทำ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเริ่มต้นและเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ สมุนไพร พืชพรรณ ธัญพืช จึงเลือกใช้คำว่า “ธัญ” สั้น ๆ เพียงคำเดียว คำว่า “ธัญพืช” จึงเป็นที่มาของชื่อแบรนด์นี่เอง สำหรับโลโก้แบรนด์ ได้เลือกใช้ตัว “ธ” แบบอักษรไทยโบราณ ซึ่งเป็นตัวอักษรตัวแรกของแบรนด์ “ธัญ” ในการสื่อแบบตรง ๆ และเรียบง่ายนั่นเอง
จุดเริ่มต้นของคุณโอ๋ ฐิติพัฒน์ ไม่ได้อยู่ดี ๆ ก็มาทำเครื่องสำอางขายเลย คุณโอ๋จบวิศวะ จุฬาฯ ด้วยซ้ำ แต่พื้นฐานเป็นคนที่สนใจเกี่ยวกับ Natural Ingredient เลือก กิน และ ใช้ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมาผลิตโดยตลอด ได้รับแรงบันดาลใจจากเมื่อครั้งทำงานอยู่ต่างประเทศ คนที่นั่นมักจะทำของใช้ อย่างเช่น สบู่ ใช้กันเองเป็นเรื่องปกติ มีการใส่ไอเดียลงไปในของชิ้นนั้น ๆ เช่น ดอกไม้ เมล็ดพืชต่าง ๆ แล้วแต่จะครีเอทกันไป คุณโอ๋เลยรู้สึกว่า ของพวกนี้ ใช้ทั้ง ศาสตร์ และ ศิลป์ ในการทำขึ้นมา จึงเป็นที่มาของแรงบันดาลใจ หากจะทำธุรกิจด้านใด ก็อยากทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ
เป้าหมายแรกในการเริ่มต้นทำเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ THANN ให้เป็นสินค้าคุณภาพสูง มุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงจากธรรมชาติ นำเสนอ ingredient ไทยที่เป็นของดี ๆ ให้ตลาดโลกมองเห็นและยอมรับ โดยวาง positioning ของแบรนด์ให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้ทุกเพศทุกวัยแบบ unisex โดยเชื่อว่า ตราบใดที่ผู้หญิงยังอาบน้ำทาผิว ผู้ชายก็ต้องอาบน้ำและดูแลตัวเองเช่นกัน THANN จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับทั้งชายและหญิง
เมื่อแรกเริ่มในการสร้างแบรนด์เมื่อ19ปีที่แล้ว สำหรับประเทศไทย การใช้กลิ่นบำบัดหรือ Aromatherapy ยังเป็นความสนใจที่จำกัดอยู่ในกลุ่มแคบ ๆ ไม่เป็นที่แพร่หลายในวงกว้างมากนัก ซึ่ง Aromatherapy จะต้องใช้สารสกัดที่มีกลิ่นหอม ที่ไม่ใช่สารสังเคราะห์ เพื่อสร้างความแตกต่างและเพื่อสุขภาพที่ดีของผู้ใช้ THANN ปรุงกลิ่นขึ้นมาเองในสูตรเฉพาะของตัวเอง เริ่มจากการเสาะแสวงหาวัตถุดิบ ทำวิจัย น้ำมันที่สกัดจากพืชผัก สมุนไพร ชา ใบไม้ ต่าง ๆ มากมาย และนำมาปรุงกลิ่นเอง จนเป็นสูตรที่ดีที่สุด จากวัตถุดิบที่ดีที่สุด เท่าที่ในเมืองไทยจะมีให้ชาวโลกสัมผัส อาทิ ตะไคร้หอม สมุนไพรของไทยที่ปลูกง่าย , น้ำมันรำข้าว ที่เป็นที่ทราบกันดีว่า มีวิตามินอีสูง แทนที่การใช้ปิโตรเลียมออยล์เป็นส่วนผสม หรือ น้ำมันที่สกัดจากดอกมะลิ ซึ่งมีมูลค่าต้นทุนสูงมาก แต่ THANN เลือกที่จะใช้ ก็เพราะเหตุผลที่อยากนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าอย่างเรานั่นเอง
เชื่อไหมครับว่า ต้องใช้ดอกมะลิมากถึง 6 ล้านดอก เพื่อสกัดเป็น jasmine essential oil ได้ปริมาณเพียงแค่ 1 กิโลกรัมเท่านั้น แต่กลับมีมูลค่าสูงถึงกิโลกรัมละ 5 แสนบาท เรียกว่า ที่มาของผลิตภัณฑ์ THANN นั้น ไม่ธรรมดาและ luxury สุด ๆ ไปเลยครับ
เมื่อช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา THANN ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ ในชื่อว่า THANN Wellness Destination รีสอร์ตและสปาระดับโลก ริมแม่น้ำน้อย ในอำเภอบางไทร จังหวัดอยุธยา ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากตัวกรุงเทพฯ เพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น มุ่งหวังให้ THANN Wellness Destination มอบประสบการณ์การพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ ภายใต้พื้นฐานการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม อันได้แก่ สถานที่ที่สะดวกสบาย ธรรมชาติอันบริสุทธิ์ อาหารที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ การออกกำลังกายที่เหมาะสม การนวดเพื่อความผ่อนคลาย รวมถึงศิลปะความงามอันจรรโลงใจภายในตัวรีสอร์ตแบบครบวงจร โดยไม่ต้องออกไปเสาะหาจากภายนอกให้เหนื่อย เรียกว่า All inclusive ครบ จบ ที่เดียวครับ
อีกทั้งยังต่อยอด Brand Experience ของ THANN ในฐานะที่เป็น Global Brand Leader ในกลุ่ม Natural Skincare and Aromatherapy Product ต้องการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับ Loyalty fan ทั่วโลกของ THANN เพราะการมาที่ร้าน THANN ลูกค้าก็อยู่คนละได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ถ้าเป็นสปา ก็อยู่ไม่เกินครึ่งวัน แต่ถ้ามาที่ THANN Wellness Destination ลูกค้าก็สามารถอยู่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ลูกค้าได้พักผ่อน สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ จากการเข้าร่วมกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้เราได้เห็น process ในหลายแบบ เห็นตั้งแต่กระบวนการปลูกสมุนไพร เก็บเกี่ยวให้ดู กลั่นให้เห็นจนเป็น essential oil ที่ทางแบรนด์ใช้ในผลิตภัณฑ์ ทำให้ลูกค้าเห็นคุณค่าของผลิตภัณฑ์ที่ซื้อไป
รูปปั้นลิง แนวคิดจากปรัชญาเซนของญี่ปุ่น โดยมีรูปปั้นลิง 3 ตัว คือ ปิดตา ปิดหู ปิดปาก หมายถึง บางครั้งเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี บางครั้งไม่จำเป็นต้องดูก็ได้ ไม่ต้องฟังก็ได้ หรือไม่ต้องพูดก็ได้ เพื่อให้เกิดความสงบ สมดุลในจิตใจ และลิงตัวที่ 4 ที่ใช้ท่าทางยื่นกล้วย เป็นความคิดของทาง owner ที่อยากสอดแทรกคติธรรมทางพุทธศาสนา นำเสนอถึงเรื่องความเมตตา การให้ การรู้จักเป็นฝ่ายหยิบยื่นสิ่งดี ๆ ให้แก่ผู้อื่น
เมื่อเริ่มเป็น THANN ในสาขาแรกเรื่อยมาจนถึงสาขาปัจจุบัน คุณโอ๋ ฐิติพัฒน์ จะเข้ามาดูแลในส่วนของการออกแบบตกแต่งทั้งภายนอกและภายในเองเสมอ ของตกแต่งจะผ่านการคิดมาอย่างดี ของบางอย่างต้องดั้นด้นไปนำเข้ามาจากต่างประเทศ จากชิ้นเล็กชิ้นน้อยนำมาจัดเรียงขึ้นเป็นชิ้นงานศิลปะเอง พูดได้ว่า ของหลายอย่างที่เป็นของประดับใน THANN สาขาต่าง ๆ รวมทั้ง THANN Wellness Destination แห่งนี้นั้น มีชิ้นเดียวในโลกจริง ๆ นี่คือความภาคภูมิใจที่ THANN อยากนำเสนอ
เมื่อ check in เสร็จแล้ว ผมจะพาทุกคนไปดู exterior รอบ ๆ กันสักนิดครับ
เหตุผลที่ทาง THANN เลือกทำเลริมน้ำในจังหวัดอยุธยาแห่งนี้ในการสร้าง THANN Wellness Destination คือการได้รับข้อมูล ณ ขณะนั้นว่า กรุงเทพมหานครถูกจัดอันดับให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก จากการสำรวจของ Master Card Global มากกว่ากรุงลอนดอนเสียอีก ดังนั้นจะต้องเลือกจังหวัดที่ใกล้กรุงเทพฯ “อยุธยา” จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในอันดับต้น ๆ จากสนามบินมาที่ THANN Wellness Destination หรือ จาก THANN Wellness Destination ไปสนามบิน ใช้เวลาเดินทางเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น
อีกทั้งการที่จะหาที่ดินทำเลติดแม่น้ำผืนใหญ่ขนาดมากกว่า 25 ไร่ในกรุงเทพฯ นั้นเป็นเรื่องค่อนข้างยาก แต่อยุธยามีระยะทางใกล้กรุงเทพฯ รวมถึงจุดแข็งด้านขนาดที่ดิน จึงตอบโจทย์ตรงนี้ หากกล่าวถึงความเงียบสงบของพื้นที่ ชุมชน ความเป็นริมน้ำ และเมืองเก่าของอยุธยาที่ได้รับยกย่องให้เป็น World Heritage Site ของ UNESCO พื้นที่นี้จึงเหมาะสมมากในการก่อสร้าง THANN Wellness Destination ครับ
ปัจจุบัน THANN Wellness Destination ให้บริการห้องพักระดับ 5 ดาว ขนาดพื้นที่ 64-213 ตารางเมตร จำนวน 46 ห้อง 5 แบบ คือ deluxe และ suite เป็นแบบ riverfront building , one bedroom pool villa โซนไพรเวท , two bedroom pool villa วิวนาเขียวชอุ่ม และ tree house บ้านต้นไม้รูปทรงแปลกตาคล้ายบ้านทาร์ซาน ซึ่งเป็นวิลล่าที่เป็นไฮไลต์ของทริปนี้ จำนวน 7 หลัง ให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจเมื่อได้เข้าพัก เป็นอย่างไรบ้างครับ รู้สึกแปลกและตื่นตาเมื่อได้เห็นเหมือนกันไหมครับ ?
ตรงนี้คือส่วนของห้องพักฝั่ง riverfront วิวสวน และ แม่น้ำครับ
การออกแบบตกแต่งและบรรยากาศของ THANN Wellness Destination มุ่งเน้นให้เกิดความสงบ สมดุล เป็นการผสานระหว่าง ความเรียบง่ายของสถาปัตยกรรม กับความงดงามของงานศิลปะที่จัดวางในส่วนต่าง ๆ ของโรงแรมและสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติในพื้นที่กว่า 25 ไร่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จัดเตรียมไว้ อาทิ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ น้ำดื่ม infused รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผิวและเส้นผมของ THANN
THANN Wellness Destination เปิดให้บริการสำหรับแขกผู้เข้าพักอายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป แพ็กเกจแบบ 3 วัน 2 คืน รวมค่าห้องพักระดับ 5 ดาว อาหาร resort wear หรือเสื้อลำลองที่ใช้สวมใส่ระหว่างการเข้าพัก รวมไปถึงกิจกรรมในรูปแบบการพักผ่อนและการดูแลร่างกาย โดยสามารถเลือกและปรับตารางกิจกรรมกับผู้ดูแลเพื่อให้ตรงกับความชอบและถนัดของเรามากที่สุดครับ
เรื่องอาหารการกินของที่นี่ ก็เป็นที่กล่าวถึงผ่านหูผมก่อนที่จะมาด้วยตัวเองพอสมควรครับ วันนี้ได้มีโอกาสมาสัมผัสลิ้มรสเองแล้ว ลองมาดูในส่วนของร้านอาหารกันครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ห้องอาหารหลักของที่นี่จะเป็น riverfront หันหน้าเข้าวิวแม่น้ำ เป็นห้องอาหารขนาด 42 ที่นั่ง ตกแต่งแบบ Modern Oriental Decor ผสมความเป็นไทยเข้าไปด้วย จะเห็นได้จากการออกแบบของตกแต่งบางอย่างที่มีทรวดทรงคล้ายเครื่องมือของชาวประมง หรือ อุปกรณ์จักสานที่ใช้ในห้องครัวไทยโบราณ และการสลักลาย wallpaper เป็นรูปแผนที่ของจังหวัดอยุธยา และ แม่น้ำน้อย อันเป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านรีสอร์ตแห่งนี้ครับ
เมนูอาหารของที่นี่ก็น่าสนใจครับ ผ่านการคิดรังสรรค์มาอย่างดี นำเสนอความหลากหลายของวัฒนธรรมการกินจากหลายประเทศทั่วโลก อาทิ ไทย ญี่ปุ่น จีน อิตาลี ฝรั่งเศส ผสมผสานกัน นำเสนออาหารสไตล์ฟิวชั่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ International Comfort Food รวมไปถึงการดึงอาหารสตรีทฟู้ดแบบไทยมาประยุกต์ จัดจานให้น่าทาน มีความน่าสนใจขึ้น บางเมนูที่เป็นตะวันตก ก็ผสมผสานเมนูพื้นถิ่นของไทยเข้ามาได้อย่างประหลาดใจ อย่างเช่น สปาเกตตี้ไส้อั่ว ที่มาจากกันคนละวัฒนธรรม แต่เข้ากันได้อย่างแนบเนียนจริง ๆ ครับ
starter จานนี้พรีเซนต์ได้น่ารักมากเลยครับ ยำส้มโอ และ stick ด้านข้างที่เสิร์ฟไว้ทานคู่กันนั่นคือ ขลุ่ยกุ้ง ครับ
อีก presentation ที่น่ารักมาก ยกให้ Duck Confit หรือ ดัก กงฟี ข้าวซอยเป็ดสไตล์ฝรั่งเศสจานนี้ครับ พนักงานยกชามที่วางเส้นและเป็ดมาก่อน และค่อย ๆ ตามด้วยการเทน้ำซุปข้าวซอยลงชามทีหลัง ซึ่งพิเศษตรงที่เป็นน่องเป็ดทอดจนกรอบนอกนุ่มใน ด้วยน้ำมันจากเป็ด ทานกับเส้นบะหมี่กรอบและน้ำซุปข้าวซอยที่คัดตัวพริกแกงจากเชียงใหม่แท้ ๆ
ห้องอาหารถูกตกแต่งอย่างสวยงาม
จบจากมื้อเที่ยงไม่ทันไร ผมนั่งทอดอารมณ์ในห้องอาหารสักพักใหญ่ ๆ พนักงานก็ทำการเสิร์ฟ afternoon tea ครับ โดย dessert จะถูกจัดเรียงแบบ tower เสิร์ฟพร้อม ชาเบลนด์ มีกลิ่นหอม ในส่วนของกาแฟ เมล็ดกาแฟก็ถูกคัดสรรอย่างดีจากจังหวัดเชียงใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะได้ดื่มกาแฟจากเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดจากยอดดอยของไทยเราจริง ๆ ครับ
ขอเวลาตรงนี้สักพัก ก่อนที่จะกลับไปยังห้องพัก ผมจะพาทัวร์ห้องพักอย่างละเอียดครับ
Total Look : Moomoothings
กลับเข้ามาหลบร้อนในห้องพักของผมในทริปนี้ครับ เป็น 1 ใน 7 วิลล่า แบบ tree house ริมแม่น้ำ ที่มีลักษณะคล้าย ๆ ยานอวกาศ หรือไม่ก็คล้ายบ้านทาร์ซาน ภายในมีความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เยอะมาก โดยเฉพาะของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ครับ อย่างหัวเตียงและฐานเตียงจะเป็นงานเส้นหนังสานแบบญี่ปุ่นแบรนด์ชื่อดังอย่าง Yothaka ครับ
เราจะเห็นของตกแต่งทั้งแบบลอยตัวและบิวท์อินแทรกอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของโรงแรมทั้งภายในและภายนอกเสมอ โดยเป็นไอเดียจาก owner ที่มีความชอบงานศิลปะและการออกแบบตกแต่งภายในเป็นทุนเดิม ดังนั้นของตกแต่งจึงมีความหมายที่ซ่อนอยู่แทบทุกชิ้นเลยครับ
Total Look : Moomoothings
แม้กระทั่งในห้องน้ำ ก็จะมีของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์อยู่ทั่วห้อง อ่างอาบน้ำถูกหุ้มด้วยงานสานเพิ่มความหรูหรา และมีดีเทลที่ดูเก๋ ลองสังเกตดูตรงพื้นสิครับ จะเป็นกระจก tempered glass แบบใส ขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าเรายืนอยู่ตรงอ่างล้างหน้า มองผ่านกระจกลงไป จะมองเห็นต้นไม้สีแดงสีสันฉูดฉาดตกกระทบแสงแดดด้านล่าง
ทางโรงแรมได้ provide น้ำดื่ม infused water ไว้กับทุก ๆ ห้อง สร้างความสดชื่นเมื่อได้ดื่มครับ
ว่ากันว่า การที่จะตัดสินว่า โรงแรมเอาใจใส่หรือดูแลลูกค้ามากน้อยแค่ไหน ให้สังเกตที่ amenities ในห้องพัก เห็นว่าจะจริงนะครับ เพราะบางโรงแรมหลาย ๆ แห่งที่ผมเคยไปพักมา ได้ให้ความสำคัญในจุดนี้อย่างมาก บางแห่งมีการ collab กับ แบรนด์ luxury ชื่อดังระดับโลก supply ของใช้ทุกอย่างภายในห้องนอนและห้องน้ำเลยครับ THANN Wellness Destination ก็ไม่บกพร่องในส่วนนี้ครับ ด้วยความที่เป็นแบรนด์เครื่องสำอางระดับ global อยู่แล้ว facial and bath amenities ภายในห้องย่อมต้องเป็นผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจาก THANN ครับ โดยเราสามารถเลือกกลิ่นแชมพู ครีมนวด ครีมบำรุงผิว ไปจนถึง กลิ่นอโรมาที่จุดภายในห้องได้ด้วยตัวเองตั้งแต่ check in และพนักงานจะทำการจัดเตรียมทั้งหมดไว้อย่างครบถ้วนให้เรา และยังได้จัด Skin Care Gift Set ไว้ให้เป็น complimentary กับแขก นำกลับไปทดลองใช้ที่บ้านด้วย นี่คือความใส่ใจชองที่นี่ครับ
ไฮไลต์ของโซนห้องพัก
รอบ ๆ ห้องพัก ทางโรงแรมก็คิดมาอย่างดีในการเลือกปลูกต้นไม้ที่ให้สีที่ตัดกับอาคารและท้องฟ้า หรือแม้กระทั่งตัดกับต้นไม้ชนิดอื่นด้วยกันเอง blend กันจนเหมือนงาน abstract ชิ้นใหญ่จากธรรมชาติชิ้นหนึ่งเลยครับ
ยังไม่ทันไร ก็ใกล้เวลาพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าแล้ว ทางโรงแรมได้นัดครูสอน Aqua Exercise ไว้ให้เรียบร้อยครับ เดี๋ยวลองมาดูว่าคลาสออกกำลังกายในน้ำจะเป็นอย่างไร โซนสระว่ายน้ำนี้ เป็นอีกจุดหนึ่งภายในรีสอร์ตที่มองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยมากจุดหนึ่งครับ
บรรยากาศดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีกันบ่อย ๆ แน่ครับ กับการได้ออกกำลังกายในคลาส Aqua Exercise ในสระว่ายน้ำแบบ infinity edge pool เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการออกกำลังกาย โดยแนะนำให้ออกต่อเนื่อง 30-45 นาที เหมือนกับการคาร์ดิโอ ขยับร่างกายในน้ำเย็นสดชื่น ท่ามกลาง ความสงบริมแม่น้ำน้อย กับแสงสีส้มของดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าไปเรื่อย ๆ รู้สึกว่าร่างกายกระปรี้ประเปร่าขึ้น ปิดกิจกรรมสุดท้ายวันนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมครับ
dinner time
ซุปฟักทอง
ไก่เทอริยากิ
เมนูในรูปแบบ “สำรับ” สามารถเลือกอาหารที่ต้องการได้จาก 3 คอร์ส เมนูเรียกน้ำย่อย หรือ starter จะเป็นแบบ chef recommended ที่มีการสับเปลี่ยนไปตามมื้อแบบพิเศษ ส่วน main dish หรือจานหลัก จะมีทั้งแบบ สำรับไทย , ตะวันตก และ ญี่ปุ่น ตบท้ายด้วยเมนูขนมหวานตามคำแนะนำของเชฟเช่นเดียวกับ starter ครับ
ไฮไลต์ที่มีการกล่าวถึงจนเข้าหูผมก่อนที่จะมาสัมผัสด้วยตัวเองก็คงเป็นจานนี้ล่ะครับ กุ้งลอบสเตอร์แคนาเดียนรีซอตโต โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นแบบมาคู่กับผัดไทยหรือรีซอตโต ก็ได้ครับ
ปิดท้ายด้วย เมนูของหวาน ที่เปลี่ยนไปทุกมื้อแบบ chef recommended ครับ สำหรับมื้อนี้เชฟแนะนำ ไอศกรีมวานิลลามาดาก้า ทานคู่กับ เค้กอินทผาลัม และ ชิโสะฮิโตะ เครื่องดื่มรสเปรี้ยวซ่าให้ความรู้สึกสดชื่น ซึ่งใบชิโสะนี้ จากที่ผมได้เล่าสู่กันฟังไปตอนต้น ผลิตภัณฑ์ที่ทางแบรนด์ THANN ได้ค้นคว้า วิจัย และพัฒนาจนเกิดเป็น skin care ที่มีส่วนผสมจากใบชิโสะ จนขายดีเป็นเทน้ำเทท่าไปทั่วโลกนั้น ยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้อีกด้วย ถ้าใครที่เป็นสายอาหารญี่ปุ่นจะคุ้นตากันดี ใบชิโสะจะถูกจัดจานมาคู่กับซาชิมิเสมอ มีสรรพคุณในการยับยั้งแบคทีเรีย มี antioxidant หรือ สารต้านอนุมูลอิสระ นั่นเอง
ในแต่ละวัน แขกผู้เข้าพักจะได้อิ่มเอมกับอาหารที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ การันตีความสดใหม่ของวัตถุดิบจากธรรมชาติ อาทิ ผัก ผลไม้ ปลาแม่น้ำ กุ้งแม่น้ำ ไข่และไก่ที่เลี้ยงตามธรรมชาติภายในชุมชนรอบ ๆ และปลูกเองภายในสวนปลอดสารพิษของโรงแรม
เช้าอีกวันแล้วครับ ผมมีนัดแต่เช้ากับการเริ่มกิจกรรมวันนี้ จะเป็นอะไร ต้องตามมาครับ
สองข้างทางของถนนภายในรีสอร์ตเราจะเห็นดอกประทัดจีนสีแดง ปลูกเรียงรายเป็นพุ่มหนาเป็นแนวยาวตลอดสองฝั่งถนนเลยครับ
ป้ายวิลล่า ถูกใส่ไอเดียเข้าไปเช่นกัน ล้อไปกับรูปปั้นลิง 4 ตัวด้านหน้าที่ผมได้แนะนำไปแล้ว
Spa Complex & Wellness Activities
เริ่มเช้าวันใหม่แบบสดชื่น ที่ตึก Spa Complex ซึ่งอยู่ทางด้านหน้าสุดของโรงแรมครับ จะสังเกตเห็นต้น “ใบละบาท หรือ ใบระบาด” ที่เป็นไม้เถาเลื้อย ซึ่งมีเมื่อออกดอกจะมีดอกสีน้ำเงินสวยงาม คนโบราณเชื่อว่ามีคุณสมบัติเป็นพืชสมุนไพร รักษาอาการเจ็บป่วยได้หลายชนิด อีกทั้งยังเชื่อว่าถ้าปลูกไว้ จะร่ำรวย มีเงินทองไหลมาไม่ขาดสาย
ใน Spa Complex ประกอบด้วย ห้องทรีตเมนต์ 15 ห้อง (ห้องทรีตเมนต์ แบบคู่ 2 ห้อง, ห้องทรีตเมนต์แบบเดี่ยว 9 ห้อง และห้องนวดไทย 4 ห้อง), Aromatherapy Steam Room, Aromatherapy Bath, Salt Therapy Room, ห้องอเนกประสงค์ 3 ห้อง ห้องออกกำลังกาย และมีห้องสำหรับทำ Facial Treatment Workshop อีกด้วยครับ
ตามผมไปทำกิจกรรมแรกกันเลยครับ
หลาย ๆ คนคงจะทราบว่าผมเป็น morning person อยู่แล้ว ก่อนไปทำงาน ผมมักจะตื่นเช้า แบ่งเวลาเข้าฟิตเนสสม่ำเสมอ แม้กระทั่งการมาพักผ่อนนอกเวลางาน ก็ยังออกกำลังกายอยู่เช่นกันครับ
THANN Wellness Destination ได้มอบประสบการณ์การพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูสุขภาพกาย อารมณ์ และจิตใจ รวมไปถึงกิจกรรมผ่อนคลาย หลากหลายรูปแบบให้กับผู้ที่เข้าพัก โดยสามารถเลือกโปรแกรมที่เราต้องการจะเข้าร่วมกับผู้ดูแลให้ช่วยจัดตารางและนัดครูผู้สอนในกิจกรรมนั้น ๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ โดยอาคาร Spa Complex นี้มีพื้นที่กว่า 1,600 ตารางเมตร
หากจะคาร์ดิโอด้วยการชกมวย สามารถนัดเวลากับทางโค้ชได้เลยครับ
ทางโรงแรมได้นัด private class ให้ผม ชื่อคลาสว่า Yoshi Balance เป็นการออกกำลังกายผสมผสานระหว่าง Taichi และ Yoga ที่จะช่วยปรับสมดุลร่างกาย ผ่อนคลายความเครียด สร้างสมาธิ และความสงบทางจิตใจได้อย่างดี เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีครับ
Salt Therapy Room
ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการพ่นไอเกลืออนุภาคขนาด 1-5 ไมครอน และการควบคุมบรรยากาศภายในห้อง ทั้งความชื้น อุณหภูมิ ความเข้มข้นของอณูเกลือให้มีปริมาณที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง และเติมประจุไอออนลบ ที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเมื่อสูดดมเป็นเวลานาน ทำให้ไอเกลือขนาดเล็กสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและกำจัดสิ่งสกปรกในช่องทางเดินหายใจ ช่วย กระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน แก้ปัญหาโรคผิวหนังและผื่นแพ้ต่าง ๆ
Breakfast กันครับ แยมสตรอว์เบอร์รี และ แยมแอปเปิ้ล นี้ ทางห้องอาหารทำเองครับ
มื้อเช้าวันนี้มีอะไรบ้าง มาดูกันครับ
ไข่กระทะ ประกอบไปด้วยไข่ดาวเป็ด กุนเชียงปลา ไส้กรอกเป็ด ลาตาตุย เครปผักโขม ใช้แป้งเครปโฮมเมด ผักโขมผัดกับชีสและนม ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง และข้าวต้มปลากระพง
จากการที่ได้ยืดเส้นยืดสายในคลาสโยคะแล้ว ร่างกายก็กระปรี้กระเปร่า พร้อมทำกิจกรรมต่อไปได้แล้วครับ เวลานี้ยังถือว่าเช้าอยู่ ช่วงที่ผมไป อากาศไม่ร้อนนักครับ “Water Bike หรือ จักรยานน้ำ” เป็นกิจกรรมที่ทางผู้ดูแลภูมิใจนำเสนอมาก บอกเลยครับว่าเราต้องออกแรงปั่นจักรยานในน้ำมากกว่าการปั่นจักรยานบนบกในแบบปกติครับ ได้ใช้พลังไปนิดหน่อย สนุกสนานดีครับ กิจกรรมทั้งหมดได้รับการดูแลด้านความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยมจากพี่ ๆ พนักงานหลายท่านครับ
Water Bike นี้ ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ตัวจักรยานจากรูปทรงของกังหันชัยพัฒนา
สามารถปั่นได้ทั่วคุ้งน้ำ ชิลมากครับ มองย้อนกลับไปฝั่งโรงแรม ก็ได้มุมมองกว้าง ๆ อีกวิว เห็นได้เลยว่า โรงแรมมีการจัด landscape ได้ดีมาก
Total Look : Moomoothings
มาต่อกันกับกิจกรรมที่ทางโรงแรมนำเสนอในช่วงเช้าครับ เยี่ยมชมแปลงเกษตรอินทรีย์ที่เป็นแบบปลอดสารพิษ 100% ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงครับ
สวนผักปลอดสารพิษของที่นี่ ปลูกดอกไม้ทานได้ สำหรับตกแต่งอาหารในห้องอาหารของโรงแรม อาทิ พวงชมพู, อัญชัน, , ผักไฮโดรโปนิกส์ สำหรับสลัดสด ๆ เสิร์ฟทุกเช้า , ฟักทองสำหรับทำซุปฟักทอง เสาวรสหวาน พันธุ์จากไต้หวัน และส้มจี๊ดสำหรับทำ marmalade เสิร์ฟคู่กับครัวซองต์ยามเช้า
การดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมภายในโครงการ ก็เป็นสิ่งที่ทางโรงแรมได้ตระหนักอย่างดี โดยใช้ปุ๋ยหมักเอง ทำน้ำชีวภาพ EM จากเศษอาหารที่คัดแยกจากครัว มีการจัดการแยกขยะจากในโรงแรมอย่างดี เป็นวิธีการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทุกกระบวนการ
จริง ๆ แล้ว แต่เดิม พื้นที่ตรงนี้เป็นดินเหนียว กสิกรทำนาปลูกข้าว ทางโรงแรมใช้เวลาอยู่สักระยะตั้งแต่ก่อสร้างโครงการ เพื่อพลิกฟื้นดินให้สามารถปลูกไม้ทานได้ และต้นไม้ต่าง ๆ ได้จนสำเร็จ
ผมได้รับเกียรติจากคุณเกียรติชัย ประกายเกียรติกุล หรือ คุณฮ้ง Senior Brand Manager จาก THANN ที่ดูแลผมอย่างดีตลอดทั้งทริป และในเช้านี้คุณฮ้งก็ตื่นเช้า พาผมทำกิจกรรมในสวนผักปลอดสารพิษนี้ด้วยครับ
ที่นี่มีโรงเพาะเห็ดด้วยครับ เพาะเห็ดนางฟ้ายักษ์ และเห็ดภูฏาน ให้แขกได้เก็บสด ๆ แล้วสามารถนำไปให้เชฟทำอาหารได้เลย อาทิ เห็ดย่างเนย
มุมมองจากสวนผักออร์แกนิก เห็นโซน tree house แบบกว้าง ๆ
จบจากกิจกรรมด้านนอกแบบยาว ๆ ขอแวะมา Spa Complex ที่ผมได้มาเล่นฟิตเนสและโยคะไปแล้วเมื่อเช้าอีกรอบครับ Spa Complex เป็นอาคารที่รวบรวมกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับ wellness & spa ทั้งหมด จะมีอะไรบ้าง ผมรวบรวมมาให้แล้วครับ
ตึกนี้ตกแต่งด้วยงานศิลปะหลายชิ้นมากครับ
บรรยากาศห้องทรีตเมนต์ ทั้ง 15 ห้อง ออกแบบอย่างร่วมสมัย แบ่งเป็นห้องคู่ 2 ห้อง, ห้องเดี่ยว 9 ห้อง และห้องนวดไทย 4 ห้อง แขกผู้เข้า พักสามารถเลือกใช้บริการทรีตเมนต์ของ THANN Sanctuary ที่หลากหลาย โดยอยู่บนพื้นฐานปรัชญาธรรมชาติบำบัดที่ช่วยสร้างสมดุล ให้กับร่างกายและจิตใจ โดย 90 นาทีสำหรับโปรแกรมสปา ผมได้เลือก Swedish Massage ซึ่งเน้นการนวดเพื่อคลายความตึงตัวของกล้ามเนื้อด้วยเทคนิคการกด คลึง ทุบ
ตลอดเวลากว่า 2 ชั่วโมงของโปรแกรม massage ลูกค้าทุกท่านจะถูกดูแลเป็นอย่างดีโดย therapist ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและมีใบรับรองความรู้เกี่ยวกับกายวิภาค (Anatomy) และ การใช้กลิ่นบำบัด (Aromatherapy) เพื่อสร้างความสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจแก่ผู้เข้ารับบริการ
อีกไฮไลต์หนึ่งที่ขาดไม่ได้ หากมาเข้าพักที่นี่ คือการได้แช่น้ำอุ่นในห้อง Onsen ครับ
บ่อน้ำร้อนของที่นี่จะแบ่งเป็น 3 บ่อตามอุณหภูมิและตามคุณสมบัติในการบำบัด เริ่มตั้งแต่ 25°C , 30°C และ 39°C ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยในเรื่องการเผาผลาญ กระตุ้นระบบน้ำเหลือง และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้ออีกด้วย นอกจากนี้ด้านในยังมีห้องอบไอน้ำอโรมา หรือ steam room ที่ช่วยวอร์มผิวและเปิดรูขุมขนด้วยครับ
ภายในตกแต่งด้วยเส้นหนัง แขวนประดับเต็มเพดาน ให้ความรู้สึกเหมือนแช่ออนเซนอยู่ใต้ป่าไม้หนาทึบขนาดใหญ่ หรือจะมองว่าคล้าย ๆ ไอควันที่พวยพุ่งขึ้นด้านบนก็ได้อีกแบบครับ
สำหรับใครที่อยากชมและเลือกสรรผลิตภัณฑ์และสินค้าจากแบรนด์ THANN ที่มีอยู่ทั้งหมด สามารถแวะเข้ามาที่ด้านหน้าโรงแรม จะมี THANN Retail Store ขนาดใหญ่เปิดอยู่ครับ โดยจะรวบรวมสินค้าจาก THANN ในทุกไลน์ ไม่ว่าจะเป็น skin care , facial care , aroma , bath amenities , accessories , home decoration , outfit และอีกมากมายครับ
และทางแบรนด์ขอฝาก 1 ผลิตภัณฑ์ที่โด่งดังระดับโลก นั่นคือ sunscreen SPF30 PA+++ มากกว่าการปกป้องรังสียูวี คือการทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น 30% ใน 42 วันครับ ที่น่าสนใจคือ ทุก ๆ นาทีจะมีคนซื้อ 1 หลอดทั่วโลก ไปช้อปกันได้ที่ THANN ทุกสาขา และช่องทางออนไลน์ครับ
การก้าวไปข้างหน้าของ THANN Wellness Destination
แบรนด์ THANN มีความมุ่งหวังในอนาคต ในการพัฒนาแบรนด์ THANN Wellness Destination ต่อไป ให้เป็น “The First Wellness Operation Chain” โดยขยายไปยังต่างประเทศ ประเทศละ 1 แห่ง ทั่วโลก ซึ่งผมเชื่อในศักยภาพของแบรนด์ว่าจะสามารถทำให้สำเร็จได้อย่างแน่นอนครับ
3 วัน 2 คืน กับการพาตัวเองจากความจอแจขวักไขว่ในตัวเมืองหลวง ได้ escape จากความเหนื่อยล้า มาฟื้นฟูร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ ผมว่ามันคือการลงทุนที่ควรค่ามาก และยิ่งมีสถานที่ดี ๆ ที่พร้อมต้อนรับเรา serve เราในทุกด้านของการเยียวยาร่างกายและจิตใจ ครอบคลุมทุก wellness อิ่มอร่อยในทุกมื้ออาหาร enjoy กับกิจกรรมหลากรูปแบบ และได้เสพงานศิลป์ที่แทรกอยู่ทุกส่วนของตัวสถานที่ ผมว่า การลงทุนด้านสุขภาพนี่แหละ คือตัวชี้วัดมวลความสุขที่จะตีกลับมาหาเราว่าคุ้มค่าและจะไม่รู้สึกเสียดายเลยจริง ๆ
แล้วเราจะกลับมาพบกันในทริปหน้าครับ
เปียง