LEISURE IN SCHEDULE
SPA & ONSEN
สวัสดีครับ ผมเปียงครับ สำหรับคนที่ตามเพจผมมาสักพัก จะรู้ว่าเพจนี้ไม่ใช่เพจท่องเที่ยว แต่เพจของผมเป็นเพจที่ว่าด้วยไลฟ์สไตล์ต่างหาก เราไม่สามารถเที่ยวต่างประเทศหรือต่างจังหวัดได้ทุกวัน และความสนุกมันก็ไม่ได้มาจากการออกไปเที่ยวตลอดเวลา ถึงในเมืองจะไม่ได้มีธรรมชาติสวยๆ แต่ข้อได้เปรียบของมันคือ กิจกรรมต่างๆที่ซ่อนอยู่ในทุกๆมุมตึก วันนี้ผมขอนำเสนอช่วงใหม่ของเพจ
LEIS…URE ON SCHEDULE
ช่วงนี้ ผมทำขึ้นมาพาทุกคนไปเปิดโลกทำกิจกรรมต่างๆกันในวันหยุดกัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ต้องการหาอะไรคูลๆทำในวันหยุด หลุดออกจากกิจกรรมซ้ำๆ อย่างการเดินห้าง ดูหนัง ฟังเพลง ทั่วๆไป ไปเจออะไรที่แปลกกว่าเดิม สนุก และต้องให้อะไรบางอย่างกลับมา
เริ่มอีพีแรกกันด้วยกิจกรรมผ่อนคลายๆ เงียบๆ ก่อนแล้วกันครับ ปัจจุบันงานของพวกเราต้องนั่งโต๊ะมากขึ้น ใช้โทรศัพท์มากขึ้น สังคมมีการแข่งขันสูง บวกกับสภาพแวดล้อม และความเครียดที่สะสม มันจะกลายเป็นปัจจัยลบต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายแสดงอาการบางอย่างออกมาในรูปแบบที่ไม่ตรงไปตรงมามากนัก เป็นได้ตั้งแต่ ปวดตัวทั่วๆ ปวดหัวเรื้อรัง ปวดคอ/ไหล่เรื้อรัง ขับถ่ายผิดปกติ รู้สึกว่าไม่มีเรี่ยวแรง จนไปถึงโรคซึมเศร้า ทั้งหมดนี้มีสิ่งแวดล้อมเป็นอิทธิพลหลักทั้งนั้น วิธีการรักษาพูดง่ายๆเลย คือต้อง “กินดีอยู่ดี” ครับ เมื่อนอนพอ กินตามเวลา ผ่อนคลายกล้ามเนื้อบ้าง ได้ออกกำลังกายบ้าง อาการก็จะดีขึ้นเองตามลำดับ สำหรับสปาเองก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่ช่วยได้เยอะมากๆ ใน condition เหล่านี้ กิจกรรมเหล่านี้เป็นการบังคับตัวเองให้ผ่อนคลาย ได้นอนเฉยๆ โดยไม่ต้องดูจอโทรศัพท์ ฟังเพลงช้าๆเนิบๆ พร้อมกับการนวด เพื่อคลายกล้ามเนื้อทั่วๆตัว จริงๆ ควรใส่กิจกรรมพวกนี้ลงไปในตารางบ้าง
ที่นี่คือ PAÑPURI WELLNESS ตั้งอยู่ที่ชั้น 12 Gaysorn Village เป็นที่ผมจะพามาแนะนำกันในวันนี้ พูดถึงแบรนด์ PAÑPURI หรือ ปัญญ์ปุริ แบรนด์นี้เป็นแบรนด์คุณภาพระดับ premium ลำดับต้นๆในไทย สิ่งที่เด้งขึ้นมาเลย คือเรื่องของความใส่ใจในรายละเอียดครับ PAÑPURI ตีความผลิตภัณฑ์ธรรมชาติต่างๆ แล้วมานำเสนอในรูปแบบที่จับต้องได้ และสะอาดที่สุด ทุกผลิตภัณฑ์มีเรื่องราว มีที่มา และ เป็น “organic” organic ไม่ใช่ผักใบเขียว แต่เป็นการบอกถึง process การผลิตที่ผ่านขึ้นตอนที่ทำให้มีการปนเปื้อนน้อยที่สุด
สินค้าและบริการของ PAÑPURI WELLNESS มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน แต่ที่ผมจะมาพูดถึงในวันนี้ เป็น Wellness Retreat & Onsen มีความพิเศษตรงที่ทางแบรนด์ให้ความสำคัญไปในเรื่อง Wellness กินดี อยู่ดี สุขภาพดีทั้งกายและใจ ใต้แนวคิดที่ว่าเมื่อเข้ามาที่นี่แล้ว จะต้องรู้สึกเหมือน restart ตัวเองใหม่ก่อนออกมา มาอยู่ในที่ที่มีแต่สิ่งดีๆ คลีนๆ ที่นี่มีสปา ออนเซ็น และอาหารต่างๆ ที่เป็น organic ทั้งหมด หนีความวุ่นวายและความเครียดตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาใช้เวลาที่นี่สัก 2-3 ชั่วโมง นั่นแหละครับ คอนเซ็ปท์ของเขา
เกริ่นมาซักพักแล้ว ไปกันครับ ผมจะพาไปชมด้านใน PAÑPURI WELLNESS กัน
เปียง
LEISURE IN SCHEDULE
SPA & ONSEN
LEISURE IN SCHEDULE
SPA & ONSEN
LEISURE IN SCHEDULE
SPA & ONSEN
บรรยากาศภายใน PAÑPURI WELLNESS ตั้งอยู่ที่ชั้น 12 Gaysorn Village ตกแต่งเรียบหรู โทนอบอุ่น
เปิดมาด้วย Welcome drink เป็นอะไรที่ผมชอบมากๆครับ Organic Vitality Boost แก้วนี้ทำมาจากกระชาย น้ำผึ้ง มะนาว รสเฝื่อนๆเล็กน้อย รสชาติแปลกๆแต่รู้สึกดี
มองไปรอบๆ ผมชอบ interior design ของที่นี่
ชอบมากที่ก่อนเริ่มทำสปา จะมีการให้เลือกนำ้มันหอมระเหยกลิ่นต่างๆ สำหรับผมเลือกเป็น Organic Lemongrass เพราะรู้สึกหัวโล่ง สดชื่นดีตอนได้ดม แต่ที่เป็น signature จริงๆของทาง brand ต้องเป็น Organic Thai Jasmin นะครับ หอมนุ่มมากๆ และจะมีการเข้ามาประเมินร่างกายด้วยคำถามนับ 10 ที่เป็นการบอกถึง condition ส่วนตัวของเราเอง ประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ทั้งหมด ประวัติการผ่าตัด แผลในที่ต่างๆ ประวัติสปาก่อนหน้านี้ รวมถึงบริเวณที่อยากให้เน้นเป็นพิเศษ และบริเวณที่อยากหลีกเลี่ยง
ใน process นี้เป็นสิ่งที่เป็น first impression ของผม เพราะมันเป็นการให้ความมั่นใจกับทั้ง 2 ฝ่ายเลย ว่าเราจะได้รับบริการที่ customized ที่สุด
“Private Onsen” เหมือนกับการยกออนเซนจากญี่ปุ่นมาเลย เพราะน้ำแร่ที่ใช้เป็นน้ำที่ใช้ในออนเซนจริงๆ นำเข้ามาจากเมือง Gunma จังหวัดใจกลางประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อในเรื่องออนเซนนั่นเอง น้ำคงไว้อุณหภูมิ 40 องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่กำลังดีต่อระบบไหลเวียนเลือด ไม่ร้อนเกินไป น้ำจะมีตะกอนที่เกิดขึ้นจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว เรื่องความปลอดภัย จึงไม่ใช่สิ่งที่กังวลที่นี่
สปาที่ผมใช้บริการจะให้ผมลงแช่ในออนเซนก่อน นานไม่เกิน 30 นาที และจากนั้นจะเป็นการนวดทั้งตัว เริ่มที่หลัง ไหล่ แขน ขา จบที่ศีรษะ เป็นอันสุดท้าย เปิดเพลงคลอเบาๆ กับกลิ่นจางๆของน้ำมันหอมระเหยที่ผมเลือกตอนต้น เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกผ่อนคลายมาก ดีมากๆตรงที่ ผมไม่ต้องเช็คโทรศัพท์ ไม่ต้องคุยกับใคร และไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น ได้ผ่อนคลายเลยจริงๆ สำหรับผมคิดว่าเป็น 2-3 ชม. ที่คุ้มค่ามากๆ หากมีโอกาสจะกลับไปอีก
หลังนวดเสร็จ จะไม่ต้องล้างตัวซ้ำแล้ว หมอนวดบอกว่าอยากให้ทิ้งไว้ที่ผิวหนังก่อนสัก 3-4 ชม.
ในอนาคตที่นี่นอกจาก private onsen แบบที่ผมไปใช้บริการมา จะมีโซน public ด้วยนะครับ นอกจากนี้ โซนที่เป็น cuisine จะเปิดเป็น canteen ที่ provide แต่อาหารที่เป็น organic เท่านั้น สำหรับ 2 อย่างนี้จะเปิดให้บริการในอนาคตนะครับ รอติดตามข่าวสารต่างๆได้ทาง website ของแบรนด์ได้เลย
เมื่อเราไม่สามารถแยกงานกับวันหยุดได้ นำกิจกรรมที่อยากทำใส่ในตารางแบบนี้สิ ออกไปผ่อนคลายสักเล็กน้อย restart ตัวเองด้วยกิจกรรมว่างๆ กับ LEISURE IN SCHEDULE ได้ที่นี่เรื่อยๆครับ
ครั้งหน้าผมจะพาไปชมที่ไหน ติดตามกันได้ที่นี่
เจอกันครับ
เปียง