THE ULTIMATE PRIVATE RESIDENCE, ARTHA : PHAHOL – ARI

THE ULTIMATE PRIVATE RESIDENCE, ARTHA : PHAHOL – ARI
ความเป็นส่วนตัวแบบเหนือระดับของบ้านในเมืองใหญ่

สวัสดีครับ ผมเปียง พบกันกับช่วง #PYONGXRealEstate อีกครั้งครับ ช่วงที่ผมอยากจะพาทุกท่านไปชมอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจทั่วประเทศไทยและทั่วโลก วันนี้ผมอยากพาทุกท่านมาที่ย่านอารีย์กันครับ ย่านที่เต็มไปด้วยสิ่งแปลกใหม่ สถานที่คูล ๆ ร้านอาหารที่น่าจับตามอง ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นย่านที่เปี่ยมไปด้วยไอเดียและแรงบันดาลใจ เป็นจุดพบกันของคนทุก ๆ รุ่นอย่างแท้จริงครับ รายล้อมด้วยบ้านเรือนทรงเก่าและพื้นที่ราคาสูงลิ่วรอบ ๆ อารีย์ แม้อารีย์เปลี่ยนไปในทุก ๆ วัน และพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง แต่ส่วนใหญ่แล้วหลายโซนยังผสมผสานความเป็นที่พักอาศัยในสัดส่วนที่สูงกว่าย่านการค้า ทำให้ย่านนี้เป็นย่านที่ดีน่าสนใจมากทีเดียวครับ ที่เรายังเห็นตึกสูงแต่ให้ความสงบที่เหมือนอยู่ชานเมือง

ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 14 ซึ่งห่างจาก BTS อารีย์ แค่ 1 กิโลเมตรเท่านั้น ซอยนี้เป็นซอยที่ค่อนข้างเงียบครับ เพราะพื้นที่โดยรอบจะเป็นพื้นที่พักอาศัยเกือบทั้งหมด ทั้งโครงการได้สร้างออกมาเพียงแค่ 3 หลังเท่านั้น โดยหลังที่จะพาไปชมนั้นจะมีการตกแต่งมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บนพื้นที่ใช้สอย 570 ตารางเมตรครับ มีความโดดเด่นในเรื่อง Security Solution และ Functional Facility ต่าง ๆ ซึ่งเขาได้วางระบบไว้ให้ทั้งหมดแล้วให้พร้อมสำหรับการอยู่อาศัยที่สะดวก ครบครัน และปลอดภัย แม้ไม่ได้อยู่ในโครงการจัดสรร แต่เสมือนยกส่วนกลางของสโมสร มารวมไว้ในบ้านหลังเดียว เพิ่มเติมข้อได้เปรียบในการปรับเปลี่ยน และใช้พื้นที่ได้ตามความต้องการของเจ้าของบ้านโดยอิสระ โดยอาจปรับพื้นที่บางส่วนเป็น home office ร้านต่าง ๆ หรือ แม้แต่คลินิกก็สามารถทำได้เช่นกันครับ

ห้องนั่งเล่นที่ดูโอ่อ่าด้วยเพดานสูงควบชั้นลอย สระว่ายน้ำระบบเกลือหลังบ้านกับหัวพ่นจากุซซี่ในสระที่เราสามารถจุ่มขาลงไปได้เลยจากห้องนั่งเล่น ลิฟต์ภายในตัวบ้านที่เชื่อมทั้ง 4 ชั้นเข้าด้วยกัน rooftop ที่รับวิวตึกสูงในเมืองได้ถึง 270 องศา กับการตื่นมารับอากาศดี ๆ ในยามเช้า ปาร์ตี้บาร์บีคิวในวันว่างพร้อมชมพระอาทิตย์ตกดินไปด้วยกันได้ในพื้นที่ของตัวเอง ห้องแต่งตัวที่เหนือกว่าการเป็น walk-in closet เพราะกว้างพอจะเข้าไปวิ่งเล่นในนั้นเลยก็ยังได้ และรายละเอียดที่น่าสนใจอีกมากมาย ที่ทำให้ผมประทับใจไม่หยุดระหว่างการเดินทัวร์ในบ้านหลังนี้เกือบชั่วโมง

ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่เรียบง่าย แต่ข้างในมีอะไรให้ค้นหาอีกมากมาย กับพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า 570 ตารางเมตร “ต่อ 1 ชั้น” ผมอยากให้ทุกคนตามผมเข้ามาชมข้างในโดยละเอียดทุกมุมไปพร้อม ๆ กันครับ
เปียง

THE ULTIMATE PRIVATE RESIDENCE, ARTHA : PHAHOL – ARI
ความเป็นส่วนตัวแบบเหนือระดับของบ้านในเมืองใหญ่

ห้องแรกจากหลายห้องที่ผมจะพาทุกท่านไปชมครับ

กลิ่นอายสถาปัตยกรรมจากไอเดียหลากหลายที่รวมอยู่ในบ้านหลังนี้

ถ้าพร้อมแล้ว ตามผมเข้ามาไปชมด้านในพร้อมๆกันครับ

WELCOME HOME – THE ENTRANCE

สำหรับบริเวณด้านหน้าบ้านจะสามารถจอดรถได้สามถึงสี่คันเลยครับ แม้อาจจะดูไม่กว้างมากก็ตาม มีการวางระบบสำหรับรถ EV มาให้ด้วย ถือว่าเป็นการเตรียมตัวที่ดี ให้ทันกับค่านิยมใหม่เกี่ยวกับการใช้พลังงาน ที่โลกเรากำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงในเร็ว ๆ นี้ครับ

facade ด้านหน้ารูปทรงแข็งแรงที่ทำให้ผมนึกถึงสถาปัตยกรรมแบบ Bauhaus ครับ

LIVING AREA – THE “LIVING” ROOM

เมื่อเข้ามาก็จะพบกับไฮไลท์แรกสุดของตัวบ้าน ลิฟต์นั่นเอง ทางผู้พัฒนาเลือกใช้ลิฟต์จาก Mitsubishi ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถซ่อมบำรุงรักษาได้ง่าย และทำให้ผู้อยู่อาศัย สามารถมั่นใจได้ในคุณภาพ โดยสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 8 ท่านด้วยกัน โดยถัดจากนั้นไปก็จะเป็นในส่วนของห้องครัว ห้องรับแขก และสระว่ายน้ำตามลำดับครับ

ก่อนจะเดินเข้าไปชมข้างใน เราก็จะพบกับตู้ไม้ขนาดใหญ่ มันคือชั้นวางรองเท้าครับ ตั้งใจออกแบบเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ที่มีรองเท้าจำนวนมาก สามารถจุได้เกือบร้อยคู่เลยทีเดียวครับ

โถงห้องรับแขกที่มีความโมเดิร์น แซมด้วยเฟอร์นิเจอร์หนังสีต่าง ๆ ตัดกับพื้นหินอ่อนจาก Cotto Italia ซึ่งนอกจากจะไม่ลื่นแล้ว ยังมีคุณสมบัติการดูดซับน้ำที่ต่ำถึง 0.1% มั่นใจในความปลอดภัยและความทนทานได้เลยครับ

ชุดครัวที่ชั้น 1 คือ Pantry หรือ ครัวฝรั่งครับ ใช้เครื่องครัวจาก Kvik แบรนด์ครัวระดับ high end จากเดนมาร์ก พร้อมด้วยอุปกรณ์เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน จาก Smeg ประเทศอิตาลี และระบบน้ำจาก Teka Group ประเทศเยอรมันนี ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนเป็นแบรนด์เพื่อการอยู่อาศัยระดับแนวหน้าของโลกทั้งนั้น ถือว่าครบและจบในตัวเองสำหรับการทำอาหารที่บ้าน

จะจัดปาร์ตี้ริมสระก็สามารถทำได้ไม่ยากเลยครับ ใครไม่อยากเปียกก็นั่งดูจากข้างในก็ได้ โดยพื้นที่ตรงนี้จะเชื่อมถึงกันหมดเลย ทำให้การทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นไปได้โดยง่ายครับ

ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดจาก Hayward ประเทศสหรัฐอเมริกา สระว่ายน้ำขนาด 8×3 เมตรนี้มีอะไรมากกว่าความสวยงามครับ สระว่ายน้ำที่นี่ใช้น้ำระบบเกลือครับ โดยมีหัวจ่าย jacuzzi อยู่ถึงสามมุม พื้นที่ที่สามารถว่ายได้จริง ๆ อยู่ที่ 6×3 เมตร ด้วยความลึกที่ไม่มาก จึงตอบโจทย์ของครอบครัวที่มีลูกอยู่ในวัยกำลังโต ตัวสระจะอยู่ติดกับโซนห้องรับแขก และจะมีตัว partition ที่กั้นพื้นที่ด้านนอกเอาไว้ ให้ความรู้สึกเหมือนกับมี pool villa ส่วนตัวยังไงอย่างนั้นเลยครับ

ด้วย ceiling แบบ double volume ที่สูงถึง 6.9 เมตร ทำให้รู้สึกถึงความโอ่โถง ไม่อึดอัดครับ

เก้าอี้ตัวเก่งกับกาแฟแก้วโปรด คงเป็นเช้าที่สุดแสนจะวิเศษอย่างแน่นอนครับ

BENEATH THE FACADE – THE SYSTEM

Security Home Automation – ความปลอดภัยเพียงปลายนิ้ว

นอกเหนือจากความสะดวกสบายแล้ว ความปลอดภัยถือเป็นหนึ่งใน priority สำคัญที่เราควรคำนึงถึงเวลาเลือกบ้านครับ เนื่องจากตัวโครงการไม่ได้เหมือนกับบ้านจัดสรรที่อื่น ๆ ด้วยความที่เขามีแค่เพียง 3 ยูนิตเท่านั้น เขาเลยเพิ่มส่วนนี้มาให้แบบจัดเต็มเลยครับ

และนี่ด่านแรกของบ้านทุกหลัง ประตูรั้วครับ ด้วยความที่โครงการมีลักษณะขายขาด และมีเพียง 3 ยูนิตเท่านั้นอย่างที่ผมได้กล่าวไป ความปลอดภัยจึงเป็น priority สูงสุดสำหรับบ้านหลังนี้ ทางผู้พัฒนาเลือกใช้ประตูเลื่อนแบบอัตโนมัติจาก Albano Nice ประเทศอิตาลี ด้วยความสูงถึง 3 เมตรและความหนาที่ไม่มากจนเกินไป ทำให้รู้สึกเข้าถึงง่าย ไม่แข็งกร้าวเหมือนประตูรั้วหนา ๆ ตามแบบสมัยก่อน

ความเจ๋งอีกอย่างคือเขาจะมี Application มาให้ครับ ซึ่งจะสามารถควบคุมทุก security function ของตัวบ้านได้เพียงปลายนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิดทั้งในและนอกบ้าน การเปิดปิด และล็อคประตูรั้ว รวมถึง notify ทันทีเมื่อมีการงัดแงะจากภายนอก โดยจะมีการติดตั้งตัว motion sensor มาให้รอบบ้านทั้งด้านในและข้างนอกเลยครับ

เหนือไปกว่านั้น บ้านหลังนี้จะมีระบบ home automation จาก Bticino แบรนด์เครื่องใช้เพื่อการอยู่อาศัย ซึ่งเขาจะเชี่ยวชาญในเรื่องของเทคโนโลยี smart home ทำให้เราสามารถเปิดปิดไฟหรือเครื่องปรับอากาศได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสครับ

อีกฟังก์ชั่นความปลอดภัยที่เล็ก ๆ ที่ผมคิดว่าน่ารักดี นั่นก็คือตัว strobe light เล็ก ๆ ที่เขาติดไว้ตามขั้นและราวบันได เวลาลงมาหาอะไรทานดึก ๆ จะได้ไม่ต้องกลัวก้าวพลาดจนตกบันไดครับ สำหรับขั้นบันไดจะเป็นไม้โอ๊ค และราวจับเป็นไม้สน ให้ความรู้สึกมั่นคงเวลาก้าวครับ

ต่อมาจะเป็นเทคโนโลยีประตูจากแบรนด์ Tostem ประเทศญี่ปุ่นครับ โดยที่เห็นอยู่นี่ไม่ใช่ไม้นะครับ แต่เป็น Aluminium Alloy ซึ่งมีความทนทานมากกว่าไม้จริง โดยทางผู้พัฒนาเห็นถึงข้อด้อยของไม้ ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดการโค้งงอหรือโก่งตามกาลเวลาได้ จึงเลือกใช้วัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์ครับ โดยส่วนอื่น ๆ ของบ้านจะใช้นวัตกรรมตรงนี้จาก Tostem หมดเลย

Service Area ที่ถูกซ่อนไว้อย่างแยบยล ไม่ให้รบกวนภาพรวมของบ้าน แถมยังใช้พื้นที่น้อยอีกด้วย

PRODUCTIVE AREA : THE CREATIVE SPACE

ขึ้นลิฟต์มาดูกันต่อที่ชั้น M ครับ พื้นที่ในส่วนนี้จะเป็น mixed use space โดยจะมีทั้งในส่วนของ pantry รวมถึง office space เล็ก ๆ ที่ตอบโจทย์เทรนด์ Work From Home ได้เป็นอย่างดี สามารถแปลงร่างให้กลายเป็น home office ขนาดย่อม ๆ ได้เลยครับ

สำหรับ Workspace หลักตรงนี้ก็กว้างขวางเช่นกันครับ สำหรับงานที่ต้องใช้ความคิดและพลังงานสูง ยิ่งในสถานการณ์ที่การ Work From Home กลายเป็น new normal แล้ว การมีพื้นที่ทำงานที่ดีนั้นเป็นอีกสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ซึ่งแต่ละคนสามารถ custom พื้นที่ตรงนี้ให้เหมาะกับตัวเองได้ครับ

นอกจากนี้ยังสามารถมองลงไปข้างล่างในส่วนของโซนห้องนั่งเล่นได้ด้วยครับ

หากสังเกตดูดี ๆ บ้านหลังนี้ใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติได้ค่อนข้างดีเลยครับ มีการวางโครงสร้างเพื่อให้แสงสามารถส่องไปถึงทุกมุมได้อย่างเต็มที่ ทำให้บ้านดูสว่างอยู่ตลอดในช่วงกลางวัน

ครัวหลัก หรือเรียกว่า “ครัวไทย” ของบ้านจะอยู่ที่ชั้นลอยครับ (ชั้น M)

ในโซนครัวนี้สามารถประกอบอาหารได้เหมือนชั้นล่างเลยครับ มีการติดตั้งทั้งเตาไฟฟ้าและเตาอบจาก Smeg เหมือนกับห้องครัวหลักที่ชั้น 1

ทางเดินเล็ก ๆ นำไปสู่ห้องน้ำครับ และถัดเข้ามาจะเป็นห้องซักรีดและห้องพักสำหรับแม่บ้านครับ

LIVING AREA – THE MASTER’S PENTHOUSE

ในชั้นต่อไปจะเป็นส่วนของ Master’s Penthouse ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกระดับของ master bedroom เลยครับ

สำหรับตัวห้องนอนหลักนั้น จะค่อนข้างกว้างเลยทีเดียวครับ โดยทางผู้พัฒนาเลือกใช้จะเป็นแบรนด์ Euro Creations แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับ extra luxury จากประเทศอิตาลี โดยเป็นการ collaboration กันระหว่างทาง Euro Creations และ Aestima Asset ภายใต้แคมเปญ “Your Home Your Life Your Masterpiece”

ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของวัสดุหรือดีไซน์ ตรงนี้ช่วยเพิ่มความหรูหราและสร้างมิติให้กับชั้นนี้ได้เป็นอย่างดี และตรงนี้จะมี pantry เล็ก ๆ และ mini bar ไว้แช่เครื่องดื่มต่าง ๆ ด้วยครับ

เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาโดยอิงดีไซน์จากยุค Bauhaus ซึ่งเป็นยุคสมัยหนึ่งที่ของวงการการออกแบบนั้นสุดไปทั้งในเรื่องความสวยงาม ประโยชน์ใช้สอยและความเรียบง่าย จริง ๆ แล้วคำใบ้อยู่ตรงหน้าบ้านหลังนี้เองครับ ทั้งโครงสร้าง รายละเอียดภายนอกต่าง ๆ ทำให้พอเดาได้แต่แรกเลยว่าได้รับอิทธิพลจากแนวคิดการออกแบบสไตล์ Bauhaus อย่างแน่นอน

ความกว้างของห้องนอนถูกเติมเต็มด้วยเตียงขนาดใหญ่ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ มากมาย จะนอนคนเดียวก็ไม่เหงา ด้วยความที่พื้นที่ทุกส่วนถูกนำมาจัดวางและใช้สอยอย่างมีประโยชน์ ทำให้เราไม่รู้สึกว่าพื้นที่แคบหรือกว้างจนเกินไป

แวะเข้าไปชมในส่วนของห้องน้ำกันก่อน จะสังเกตได้เลยว่าห้องน้ำชั้นนี้จะมีขนาดที่ใหญ่เป็นพิเศษ มีทั้งอ่างอาบน้ำและฝักบัวครับ

ตรงนี้จะเป็นอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว ดูดีมากครับ โดยสำหรับหลังนี้ เขาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สุขภัณฑ์จาก Toto Japan กับมาตราฐาน Japanese Standard สำหรับระบบน้ำร้อนและเย็นก็จะเป็นนวัตกรรมจากประเทศเยอรมันนีเช่นกัน โดยเลือกใช้ solution จาก Stiebel Eltron ครับ

Walk In Closet อีกหนึ่ง milestone สำคัญสำหรับมนุษย์ผู้รักการแต่งตัว (เช่นตัวผมเองเป็นต้น) หากใครที่มีเสื้อผ้าเยอะ เครื่องแต่งกายเยอะ ๆ ผมว่าตรงนี้สามาถตอบโจทย์ใครหลาย ๆ คนได้เลยครับโซนตรงกลางห้องเต็มไปด้วยชั้นเก็บของมากมาย ใครที่มี accessories เยอะ ๆ น่าจะชอบเป็นพิเศษครับ

ด้วยพื้นที่ที่กว้างขวางนี้เองน่าจะทำให้การแต่งตัวออกไปนอกบ้านของใครหลาย ๆ คนสนุกขึ้นอีกเป็นกองครับ

เห็นกระจกเป็นไม่ได้เลย

living space เล็ก ๆ ที่มีอยู่ทุกชั้น สำหรับชั้นนี้ที่ถูกออกแบบให้เป็น penthouse เรียกว่าเป็นห้องรับแขกเล็ก ๆ สำหรับคนสนิทก็ไม่ผิดครับ

ตามผมขึ้นมาชั้นต่อไปกันครับ รอบนี้ขอเดินขึ้นบันไดครับ

LIVING AREA – THE PLAYGROUND

สำหรับชั้นต่อมา ตรงนี้เขาจะแบ่งพื้นที่หลัก ๆ เป็นทั้งหมด 2 ส่วนครับ ก่อนที่จะไปดูทั้งสองห้อง ก็จะเจอกับโซนพักผ่อนเล็ก ๆ ซึ่งสามารถนั่งทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ครับ จะว่าไปก็เหมือน lobby เล็ก ๆ เลยนะครับ ทุกครั้งที่เราขึ้นไปในพื้นที่ใหม่

สำหรับครอบครัวไหนที่มีลูกแล้ว การมีพื้นที่ให้เขาได้เรียนรู้ ทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอนับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดครับ

ในโถงทางเดินนี้เองจะมีระเบียงเล็ก ๆ ที่สามารถทำให้กลายเป็นพื้นที่เรียนรู้ของเจ้าตัวน้อยได้ครับ ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยนั้น ในส่วนของตัวระเบียงเขากันด้วย laminate glass นอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ยังแข็งแรงทนทานมาก ๆ ครับ

มาถึงห้องต่อไป ห้องฟิตเนสครับ จริง ๆ แล้วเวลาออกกำลังกายเราอาจไม่จำเป็นต้องไปฟิตเนสที่มีเครื่องเล่นจำนวนมากเลย ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ หากจัดวางดี ๆ มี treadmill สักเครื่อง เซ็ท dumbell ที่มีน้ำหนักตามที่ตัวเองชอบ bench 1 ตัว อาจจะมีพวก machine station เพิ่มชุดอุปกรณ์ไว้สำหรับเล่น body weight และ yoga mat ไว้สำหรับยืดเส้นยืดสาย เราก็จะสามารถสร้างยิมเล็ก ๆ ในบ้านของตัวเองได้แล้วครับ

เดินถัดมาอีกนิดจะเจอในส่วนของ Kid’s Room ครับ ห้องนี้ค่อนข้างกว้างเลยครับ หากบ้านไหนไม่มีลูก พื้นที่ตรงนี้ก็สามารถแปลงร่างเป็น guest bedroom ไว้ต้อนรับแขกได้เช่นกัน

walk-in closet สำหรับ fashionista ตัวน้อยครับ

OUTDOOR AREA – DOWNTOWN ROOFTOP

และส่วนสุดท้าย อีกหนึ่งโซนที่ผมชอบที่สุด ดาดฟ้าครับ
วิวแบบนี้ที่มีตึกน้อยใหญ่ พื้นที่อยู่อาศัย หรือย่านธุรกิจปะปนกันไป เป็นความสงบภายใต้ความวุ่นวายของสังคมเมืองอย่างแท้จริง

เมื่อเดินขึ้นมีอาจทำให้หลายคนต้องประหลาดใจ ปกติชั้นดาดฟ้ามักจะเป็นพื้นที่โล่งแจ้ง แต่สำหรับบ้านหลังนี้ จะมีพื้นที่ indoor เล็ก ๆ ซึ่ง function ของมันจะเกี่ยวเนื่องกับโซนพื้นที่ข้างนอกครับ โดยจะเป็นพื้นที่ในร่มให้สามารถเข้ามาพักเปลี่ยนบรรยากาศจากการทำกิจกรรมข้างนอกได้ มีประโยชน์มากสำหรับการจัดปาร์ตี้ครับ

ภาพเขียนจากคุณบัว บงกชทิพย์ ภิรมย์ภักดี โดยศิลปินได้แรงบันดาลใจมาจากพระอาทิตย์ตกดิน ห้องนี้จะได้เห็นพระอาทิตย์ตกอย่างชัดเจนที่สุด ทำให้ผลงานชิ้นนี้สามารถสร้างสีสันและเพิ่มความผ่อนคลายให้ตัวบ้านได้มากขึ้นทีเดียวครับ

เมื่อมองลงมาจะเห็นพื้นที่สีเขียวเล็ก ๆ ที่สอดแทรกอยู่ในทุกชั้น

อีกไฮไลท์สำคัญของบ้านหลังนี้ ผมขอพาทุกท่านเดินมาที่ระเบียงอีกฝั่งหนึ่ง จะมี pavillion เล็ก ๆ ให้นั่งรับแสงแดดยามเช้า หรือจะจุดเทียนสักเล่ม นั่งจิบไวน์เรื่อย ๆ เอ็นจอยกับมุมพันล้านได้ทุกช่วงเวลาเลยครับ

หรือถ้ามองไปด้านข้างจะเห็นโซนดาดฟ้าของเพื่อนบ้านอีก 2 หลังของเราครับ ทำให้ผมนึกถึงย่าน Manhattan ที่นิวยอร์ค ไม่ก็เมืองเกาลูนของเกาะฮ่องกงครับ

ไม่ใช่ rooftop bar ลับที่ไหนนะครับ แต่นี่คือชั้นดาดฟ้าของบ้านหลังนี้เองครับผม เมื่อจัดวางดี ๆ ก็สามารถกลายเป็นพื้นที่สังสรรค์อีกมุมหนึ่งนอกจากบริเวณสระว่ายน้ำข้างล่าง

จะทำบาร์บีคิวนอกบ้าน สวมบทบาทเป็นบาร์เทนเดอร์ ผสมเครื่องดื่มใหม่ ๆ หรือจะนั่งชิล ๆ ทำงานคนเดียว ผมคิดว่ามันเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่น่ารักมาก ๆ ครับ

สุดท้ายและท้ายสุด ผมประทับใจในหลาย ๆ ส่วนของบ้านหลังนี้มากครับ จะเรียกว่าเกือบทุกส่วนก็ว่าได้ การออกแบบที่เน้นคุณลักษณะแบบประโยชน์นิยม มุ่งเน้นไปที่ความสะดวกสบาย แต่ก็ยังไม่ละทิ้งความสวยงามสบายตา ที่เป็นอีกหนึ่งคุณลักษณะสำคัญของการออกแบบที่อยู่อาศัย

สำหรับ ARTHA : PHAHOL – ARI ที่ผมพาชมเป็นส่วนของบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งมาให้เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ส่วนบ้าน standard ที่ยังไม่ตกแต่งจะเริ่มต้นที่ 42 ล้านบาท โดยในส่วนของระบบต่าง ๆ ที่ทางผู้พัฒนาวางไว้ให้ และหากต้องการตกแต่งภายในเพิ่มเติม ทางบริษัทยังมีบริการให้คำปรึกษาสำหรับผู้ซื้ออีกด้วย

ถือว่าตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวและการอยู่อาศัยอย่างแท้จริงครับ สำหรับ ARTHA : PHAHOL – ARI หากท่านใดที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับ

เชื่อว่าทุกคนคงจะได้ไอเดีย หรือข้อมูลดี ๆ จากการเยี่ยมชมในครั้งนี้ สำหรับครั้งหน้าผมจะพาไปที่ไหนอีกใน #PYONGXRealEstate ติดตามกันให้ดีนะครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อฝ่ายขาย โทร 0986926924
Line @Artha หรือ bit.ly/lineartha

นัดหมายเพื่อเยี่ยมชมโครงการ
https://aestimaasset.com/

พบกันครับ, เปียง
#PYONGXRealEstate #ARTHAphaholari #Phaholyothin14 #SuperLuxuryHouse #PoolVilla