SEXY DISH
15 FINE RESTAURANTS TO DINE IN BANGKOK
รวม 15 ห้องอาหารชั้นพรีเมียมรอบกรุงเทพฯ

เราตามไปชมร้านอาหารกับ presentation รสชาติ และ เรื่องราวของแต่ละที่ด้วยกันครับ

สวัสดีครับ ผมเปียง

NAHM

ใต้ตึกโรงแรม COMO METROPOLITAN โรงแรมระดับ 5 ดาว ย่านสาทร มีร้านอาหารไทยระดับตำนานตั้งอยู่ครับ หลายท่านอาจเคยได้ยินถึงชื่อห้องอาหาร NAHM กันมาบ้างหลายปีแล้วก่อนหน้านี้ แต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ได้มีการรีโนเวทครั้งใหญ่และได้เปลี่ยนหัวหน้าเชฟเป็นเชฟคนไทย นั่นก็คือ เชฟพิม แน่นอนต้องเกิดคำถามถึงมาตรฐาน แต่ด้วยความสามารถของเชฟพิม ที่คร่ำหวอดในวงการอาหารไทยแห่งเอเชียมาเป็นเวลานาน ทำให้สามารถรักษา Michelin 1-Star ได้ดังเดิม

nahm

เป็นร้านอาหารไทยที่เน้นรสชาติจัดจ้านแบบไทยแท้ๆทุกจาน บริหารโดยเชฟพิม ที่มีความต้องการให้ลูกค้าที่เข้ามามีความรู้สึกว่า ได้นั่งรับประทานอาหารอยู่ในบ้านเพื่อน บรรยากาศสบาย ๆ มองเห็นวิวสระว่ายน้ำของโรงแรม รู้สึกผ่อนคลาย ด้วยความที่คลุกคลีอยู่กับอาหารไทยมานานตั้งแต่ครั้งไปเรียนต่อยังต่างประเทศ แต่อาหารไทยที่ถูกปากกลับหาทานยาก
ทุกครั้งที่กลับมาประเทศไทย เชฟพิมตั้งใจทุกครั้งที่จะเรียนทำอาหารกับคุณป้าเพื่อสั่งสมประสบการณ์เป็นระยะเวลากว่า10ปี จนมาเป็น “น้ำ” ทุกวันนี้

เรื่องการให้ความสำคัญของการคัดสรรวัตถุดิบก็ไม่แพ้กัน เชฟพิมออกเดินตลาดเพื่อคัดเลือกเองเสมอเพื่อให้ได้มาซึ่งส่วนประกอบที่ดีที่สุดของเมนูทำการปรุงและเสิร์ฟในแบบรสจัดจ้านที่คนไทยรับประทาน นั่นคือทุกรสสัมผัสต้องลงตัว มีแกงเผ็ด หรืออาหารประเภทผัด จะต้องมีซุป เครื่องปรุงรสเปรี้ยว ต้องมีผักแนม เป็นต้น

รสชาติอาหารของเชฟพิม จะมีความจัดจ้านแบบอาหารไทย แต่ไม่ล้นจะเกินความพอดี ทำให้สามารถรับประทานได้ทุกคน แม้คนไม่รับประทานเผ็ด มีความเป็นอาหารไทยแบบดั้งเดิมที่ไม่ได้ฟิวชั่นใด ๆ ทำให้ทุกจาน เป็นอาหารที่คนไทยรู้จัก และมักจะเคยรับประทานมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ความเจ๋งของเชฟเป็นเรื่องของการขับรสชาติของแต่ละจานให้เด่นชัดมากขึ้นด้วยวัตถุดิบชั้นดีที่ยำรวมกันอย่างหลากหลาย สร้างความรู้สึกในปากที่น่าประทับใจและแปลกในทางที่ดี

Recommended – งบทะเล หนึ่งใน heritage course ของ NAHM เป็นห่อหมกทะเลที่ครบเครื่องที่สุดที่สุดจานหนึ่งที่เคยทานมาครับ ด้านในเป็นปลาเก๋า กุ้ง และปู ผสมรวมกัน มีรสเผ็ดแบบเครื่องแกง แต่นุ่มมันด้วยรสกะทิ กลมกล่อมและหอมมาก ๆ อยากให้ลองไปชิมดูครับ

R.HAAN

เป็นอีกร้านอาหารไทยในดวงใจของผมเองครับ ตั้งอยู่ในย่านซอยทองหล่อ 9 ภายนอกเป็นตึกสีขาวทรงสูงโอ่โถง ดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบ Thai Comtempory ร้านนี้ได้รับมาตรฐานระดับ MICHELIN 2 ดาว เป็นเมนูอาหารไทยแท้ต้นตำหรับ แทรกด้วยไทย fusion เล็กน้อยพอให้สนุกกับอาหารมากขึ้น มีการผสมผสานระหว่าง tradition และ innovation เข้าด้วยกัน ทำให้เกิดการสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ มีการนำเทคนิคใหม่ ๆ มาจัด presentationอาหารให้ว้าวยิ่งขึ้น

เป็นการร่วมมือระหว่าง Owner/Founder คือคุณต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี และ เชฟชุมพล แจ้งไพร Co Founder ที่เรารู้จักกันดีในฐานะเชฟอาหารไทยแท้ชื่อดัง ความพิเศษคือการที่เชฟคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศที่มีแหล่งผลิตจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย 100%

ภายในร้านย้อมไฟโทนwarm เพิ่มบรรยากาศในการดินเนอร์ได้เป็นอย่างดี ท่ามกลางการตกแต่งแบบสไตล์ไทยร่วมสมัย

เมนูของร้านจะล้อไปกับฤดูกาลทั้ง 3 ฤดู เครื่องปรุงและวัตถุดิบต่างๆของร้าน จะไม่นำเข้าแบบสำเร็จรูปอย่างเด็ดขาด หากแต่งานในแผนกครัว ไม่ว่าจะเป็นการ หุง หั่น ต้ม หมัก ตำ ฯลฯ ร้านจะทำเองหมดทุกขั้นตอน แม้กระทั่งการแกะสลักผัก ผลไม้ ก็ทำเองเช่นกัน

Recommended – เมนูสลัดพล่ากุ้งลายเสือทะเลอ่าวไทยน้ำลึก พร้อมผักออร์แกนิกและหัวปลีกล้วยตานี เมนูที่เชฟได้แรงบันดาลใจเมื่อครั้งยังเป็นเด็กอายุ 11 ปีจากเมนูพล่ากุ้งของคุณแม่ที่ทำให้ลูกค้าทานเมื่อ 36 ปีที่แล้วครับ พล่ากุ้งอร่อยมาก เช่นเดียวกับซุปต้มยำที่ทำจาก syphon ซึ่งกลิ่นหอมชัดมากจนน่าประทับใจ

Bo.lan

ผ่านอุโมงค์ต้นไผ่เข้าไป เราจะเจอร้านอาหารไทย fine dining ชื่อดังร้านนี้ครับ BOLAN ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท53 ด้านหน้าเป็นสวนสีเขียวร่มรื่น มีสวนแนวตั้งที่ใช้พืชผักสวนครัวปลูกคล้ายสวนเกษตรอินทรีย์ นับเป็นร้านมิชลิน 1ดาว ที่ popular มากในหมู่นักชิมโดยเชฟโบ ดวงพร นอกจากนี้โบลานยังถูกจัดอันดับร้านอาหารแนะนำจาก The World’s 50 Best Restaurants Academy คนแน่นร้านในระดับที่ว่า walk in ก็ยากพอสมควรต้องจองผ่านระบบของร้านเท่านั้น

กิมมิคน่ารัก ๆ คือ ก่อนจะถูกเชิญเข้าไปในโซนรับประทานอาหารจริงๆ ทางร้านจะพาเราเข้าไปถึงในครัวที่พนักงานทุกคนรวมถึงเชฟใหญ่ของเราทำงานอยู่จริง เพื่อมาทาน first bite เสียก่อนครับ พอเข้าไปถึงโรงครัว ทุกคนในห้องจะหันมาหาผมแล้วพูดพร้อมๆกันว่า “ทานข้าวหรือยัง” แอบตกใจอยู่เหมือนกัน

เมนูของโบลานจะเป็นเมนูอาหารไทยสูตรโบราณถูกครีเอทขึ้นใหม่อยู่เรื่อยๆตามฤดูกาลทำให้ได้วัตถุดิบที่สดใหม่ตามฤดูกาลนั้น ๆ โดยจัดเสิร์ฟเป็นคอร์สแตกต่างตามเมนูและราคาต่างกันไป วัตถุดิบที่โดดเด่นของร้านนี้คือเครื่องแกงแบบไทย ๆ ที่เชฟรังสรรค์เองอย่างพิถีพิถัน เนื้อสัตว์อย่างไก่ ก็เป็นไก่ออแกนิกส์คุณภาพจากฟาร์ม

Eat Me Restaurant

ร้าน Eat Me อยู่ในซอยคอนแวนต์ เป็นอาหารนานาชาติค่อนฝั่งยุโรปfusion เปิดมา 20 ปีแล้ว การันตีด้วยทุกอย่างที่ปังมาก

ได้รางวัล Michelin Plate และอยู่ใน Asia’s 50 Best Restaurants ตั้งแต่ปี 2556-2560 ด้วย ดีมากตั้งแต่บรรยากาศที่ร่มรื่นและอบอุ่นเหมือนบ้าน

presentation และ รสชาติของอาหารถือว่ายอดเยี่ยมที่สุด มีหลากหลายสัญชาติ แต่จะค่อนไปทางยุโรปนะครับ

ความน่ารักของที่นี่คือการทำ cocktail ที่มีความขี้เล่นโดยแฝงเอารสชาติของอาหารไทยชื่อดังอย่างแกงไตปลาและลาบหมูมาทำเป็นเครื่องดื่ม อย่าง LAAB-MOO กับ KAENG TAI-PLA ที่เห็นพาดอยู่คือเบคอน และที่เห็นเป็นเม็ดโรยๆคือ พริกเกลือนะครับ เป็นคอกเทลที่เผ็ดร้อนทีเดียว

Recommended – Lamb / Sticky Date Pudding
ห้ามพลาดเด็ดขาดกับของหวาน sticky date pudding นุ่มและหอมมาก รับรองว่าต้องชอบครับ

Chef Pom Cuisine By TODD

อาหารจีนไม่น่าเบื่อเหมือนเดิมอีกแล้วด้วยร้านอาหารจีนใหม่ของเชฟป้อม เชฟอาหารจีนชื่อดัง หลาย ๆ ท่านอาจจะรู้จักกันมาบ้างแล้วจากรายการเชฟกระทะเหล็ก ร้านเชฟป้อม ธนรักษ์ ชูโต ได้ร่วมมือกับคุณต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี เปิดร้านอาหารจีนแบบfine dining ขึ้นแถวริมแม่น้ำเจ้าพระยา พระราม3 จากประสบการณ์กว่า 30 ปี ในการเดินทางสั่งสมประสบการณ์ทั้งในต่างประเทศและในประเทศ CHEF POM CUISINE BY TODD ร้านนี้จึงโดดเด่นอย่างมากในการที่มีผู้รู้ในเรื่องอาหารจีน มาครีเอทเมนูอาหารให้หน้าตาดูทันสมัย ดูน่าสนใจมากขึ้น เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย แต่ยังคงรสชาติดั้งเดิมที่ถูกปาก ด้วยวัตถุดิบที่เชฟป้อมคัดเองกับมือ เรียกง่ายๆว่ามันคือ classic บวกกับ modern นั่นเอง

สำหรับอาหารเมนูที่แนะนำจะเป็นเซท Individual B ซึ่งแต่ละจานจะสอดแทรกเซอร์ไพรส์ให้เราฉงนและทึ่งอยู่ตลอด เป็นแนวคิดที่น่าสนใจมากของเชฟ อยากให้ลองสังเกตกันดู และยิ่งเมนู mystery box หรือ กล่องปริศนานั้น การจัดวางถาดอาหารและการเรียงลำดับการรับประทาน ยิ่งทำให้เราเหมือนตกอยู่ในภวังค์ทีละชิ้นๆ จนฟินในคำสุดท้าย ที่สุดจริง ๆ

ในร้านตกแต่งเป็นจีนโมเดิร์นที่ดูดีมากครับ หยิบจับเอารายละเอียดความเป็นจีนเล็กๆน้อยๆ มาขยี้ให้ดึงดูดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกรงนก ซี่กรง ประตูโลหะ และศาลเจ้า

Recommended – สำหรับเมนูที่อยากแนะนำคือ เป๋าฮื้อเจี๋ยนเห็ดมอลเรลตับห่าน เป็ดปักกิ่งแบบแนวคิดใหม่ ทั้งหมดนี้เป็นสุดยอดวัตถุดิบพรีเมียมจากการคัดสรรและครีเอทของร้านอย่างดีที่สุดอย่างที่ไม่ควรรีรอที่จะลองมาพิสูจน์กันครับ

Tapas Vino Restaurant

ตั้งอยู่โรงแรม Pullman Bangkok Grande Sukhumvit กับร้านอาหารที่ให้กลิ่นอายเป็นมิตรแบบดิบๆ กับบรรยากาศแบบสไตล์โมเดิร์นรัสติก ที่นี่เสิร์ฟเป็น a la carte นะครับ ทุกเมนูสร้างออกมาด้วยคอนเซปต์ที่เป็นจานกลางทั้งหมด เพื่อแบ่งกันโดยเฉพาะ ดังนั้นจานจึงใหญ่ ให้เยอะมาก และที่สำคัญ อร่อยมากครับ เมนูที่ผมชอบมากเลยคือข้าวผัดสเปน Fried Spanish Bomba Rice with Seafood and Lemon Topping กลิ่นดีมาก ได้ไอเกลือทะเลหน่อย ๆ สมกับเป็นอาหารเมดิเตอร์เรเนียน

Recommended – Fried Spanish Bomba Rice with Seafood and Lemon Topping

Monosei

ตั้งอยู่ในมุมสงบใกล้แยกราชประสงค์ในบริเวณโรงแรม Intercontinental ราวกับเปลี่ยนฉากทันที่ที่ก้าวเข้าไปในร้าน เราจะสัมผัสได้ถึงความเป็นญี่ป่นแบบดั้งเดิม ที่มีความสุขุม มินิมอล แต่เต็มเปี่ยมด้วยรายละเอียด

MONO SEI ได้รวมเชฟญี่ปุ่นมากประสบการณ์ทั้ง 4 ท่านมานำเสนออาหารญี่ปุ่นให้เรา ซึ่งแต่ละท่านก็มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านของอาหารญี่ปุ่น คิดค้น พัฒนา และ สร้างสรรค์คอร์สอาหารให้มากกว่าแค่ Omakase

แต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือการคงกลิ่นอายวัฒนธรรมอาหารของญี่ปุ่นแท้ๆไว้ ชูวัตถุดิบที่สดใหม่และถูกปากนักทานอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าสุดจริง ๆ สำหรับที่นี่

เป็นร้าน Omakase ที่มีคอร์สเยอะมากครับ เยอะที่สุดที่เคยทานมาเพราะมีถึง 26 คำด้วยกัน คอนเซปต์ที่น่าสนใจมากคือ หากทานไม่อิ่ม ไม่ให้กลับ คุณสามารถสั่งเมนูไหนมาทานซ้ำก็ได้ตามที่ต้องการหลังจากจบคอร์สแล้ว

Kintsugi Bangkok by Jeff Ramsey

คินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์ ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบไคเซกิสมัยใหม่ในโรงแรม The Athenee ถนนวิทยุ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เชฟเจฟนำเสนออาหารชุดไคเซกิแบบทันสมัยขึ้น ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจมากๆครับ ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในร้าน ชอบการที่ภายในห้องอาหารให้บรรยากาศความเป็นญี่ปุ่น ที่แทรกด้วยไอเท็มแนว rustic style ทำให้มันดูเท่และมีเสน่ห์อย่างมีชั้นเชิง คลอกับเพลงญี่ปุ่นเบา ๆ ซึ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีมากๆในอาหารมื้อนั้น

เชฟเจฟเป็นทายาทเชฟรุ่นที่3ของครอบครัว เชฟเจฟเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน สืบทอดรสชาติอาหารแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมของครอบครัว แต่ครีเอทการนำเสนอให้เป็นรูปแบบที่แปลกใหม่ และทันสมัยขึ้น
เมื่อครั้งอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นกับภรรยา เชฟเจฟอาศัยอยู่ในภูมิภาคคันไซ เชฟจึงเน้นวัตถุดิบที่มาจากแถบนี้ โดยนำมาทวิสต์กับวัตถุดิบของไทย เป็นการเชื่อมโยงวัฒนธรรมทางอาหารอีกด้วย
ซึ่งประสบการณ์ รางวัลและผลงานในระดับโลกต่าง ๆ ที่เชฟได้รับมาจากหลายประเทศเป็นเครื่องการันตีความสำเร็จในด้านการสร้างสรรค์เมนูอาหารของเชฟเป็นอย่างดี

ห้องอาหาร KINTSUGI ตกแต่งภายในแบบ minimal และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบRustic ให้ความรู้สึกนวล ๆ สบาย ๆ ดินเนอร์เคล้าเพลงญี่ปุ่นสลับกับ lounge music เบาๆ มีอาหาร 3 เซทเมนูให้เลือกรับประทานคือ Ito, Kin และ Omakase อีกทั้งยังมีเมนูอะลาคาร์ทให้เลือกทานอีกด้วย

Recommended – โซบะเย็นวอลนัท โซบะเย็นจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หลังจากรับประทาน “โซบะเย็นวอลนัท” จานนี้ครับ
โซบะเย็นหน้าตาน่าทานจานนี้เป็นเมนูอาหารขึ้นชื่อของเมือง Nagano ที่ Kintsugi Bangkok นำเสนอ มีการใช้ถั่ววอลนัทบดผสมเคลือบเส้น ผงโรย และน้ำมันที่ใช้ เสิร์ฟโดยการราดด้วยไนโตรเจนเหลว เพื่อทำเป็น กรานิต้า บนเส้นโซบะ หอมติดจมูกมากครับ

飛翔 Hishou

ล่าสุดเลยสำหรับที่นี่ ใครชอบเทมปุระ ควรค่ากับการโดนนะครับ กับ HISHOU (ฮิโช) ภายใน Hotel Nikko มีเมนูเด่น คือ เซตเมนูเทมปุระ บุฟเฟ่ต์ของว่างสไตล์ญี่ปุ่น และบาร์สไตล์ญี่ปุ่น ตกแต่งอย่างน่าสนใจด้วยปล้องไม้ไผ่ที่เรียงตัวตลอดแนวเพดาน ผสมผสานวัสดุธรรมชาติตามแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิม

ความดีงามของร้านคือการเอาใจคนรักเกลือครับ มีเกลือที่แตกต่างกันถึง 6 ชนิดเสิร์ฟทานกับเทมปุระ ได้แก่ Moshio (รสธรรมดา), Wasabi Shio (รสวาซาบิ), Karei Shio (รสผงกะหรี่), Yusu Shio (รสมะนาว), Sansho Shio (พริกไทยดำ) และ Matcha Shio (รสชาเขียว) นอกจากนี้ยังมีไอศกรีมเกลือที่เป็นที่สุดแล้วครับ อร่อยมาก ๆ

ทีเด็ดของเทมปุระคือ เทมปุระขาปูเทระบะ ที่จะเสิร์ฟเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เท่านั้น อร่อยมาก หากเป็นไปได้ อย่าลืมสั่ง Wagyu มาด้วยนะครับ สามารถเอามาย่างเองที่โต๊ะได้ หรือจะให้เชฟทำให้ก็ได้

YTSB – Yellow Tail Sushi Bar, Bangkok

สัปดาห์ที่แล้วกับครั้งแรกของผมที่ร้าน YTSB – Yellow Tail Sushi Bar ร้าน Omakase ติด BTS ราชเทวี ที่ล่าสุดเพิ่งถูกจัดอันดับไว้ใน Bangkok’s Best Restaurant Awards 2562

ร้านนี้อาจเป็นที่รู้จักกันบ้างอยู่แล้วสำหรับหลาย ๆ ท่าน เพราะเปิดมาตั้งแต่ปี 2556 และเป็นร้านอาหารยอดเยี่ยมในหลายๆสื่ออย่าง Thailand Tatler และ BK Magazine เหมือนเปิดวาร์ปแนวคิดใหม่ของร้านอาหารญี่ปุ่นครับ ที่นี่ไม่เหมือนกับร้านไหนเพราะการตกแต่งที่ผาดโผน เล่นสีสัน และใช้เลเยอร์ที่หลากหลาย ทำให้ดูเป็นห้องอาหาร Omakese ที่สนุกมาก ขัดกับความคิดที่ว่าที่แบบนี้ต้องตกแต่งเรียบ ๆ มินิมอลแบบญี่ปุ่น

สำหรับในแง่ของอาหาร ควบคุมโดยเชฟจรัญ Sushi Master Chef ผู้คลุกคลีในแวดวงอาหารญี่ปุ่นมานานจนเป็นที่ยอมรับในวงการในด้านฝีมือที่หาใครเทียบได้ยาก
เชฟเป็นคนคัดวัตถุดิบเอง โดยเฉพาะปลาที่สั่งตรงจากตลาดปลา Toyosu โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ต้องเป็นปลาแบบไม่เสียเลือดเพื่อให้ปลายังคงความสดเสมอจนกระทั่งมาถึงในครัวก่อนปรุงเท่านั้น รับประกันในความสดจริง ๆ ร้านอาหาร YTSB จัดโซนรับประทานทั้งแบบซูชิบาร์ที่สามารถชมการปรุงอาหารจากเชฟโดยตรง และโซนนั่งทานแบบเป็นโต๊ะ ในส่วนของซูชิบาร์ เราสามารถพูดคุยกับเชฟเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเชฟเรื่องอาหารได้ เป็นการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกันที่ดีเลยทีเดียว ที่สำคัญอีกอย่างคงเป็นเรื่องการเดินทางครับ จอดรถได้ไม่มีค่าใช้จ่ายโดยใช้ที่จอดรถของโรงแรม VIE Hotel Bangkok หรือจะมาจาก BTS ก็ทำได้โดยการเดินจาก BTS ราชเทวีเพียงไม่กี่ก้าว บริการดี เชฟคุยสนุก และเป็นกันเองมาก

Le Normandie at Mandarin Oriental, Bangkok

LE NORMANDIE คือห้องอาหารฝรั่งเศสที่นับเป็นจุดหมายปลายทางของ foodie ทั่วโลกที่มาเยือนเมืองไทยครับ ทำเลที่ตั้งภายในโรงแรม Mandarin Oriental โรงแรมระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้การควบคุมของ Chef Arnaud Dunand Sauthier

ล่าสุดกับดาวมิชลินระดับ 2 ดาว ที่การันตีถึงความเป็นเลิศในด้านรสชาติ ทำให้ LE NORMANDIE มีความสมบูรณ์แบบมากกว่าที่ไหน

นับเป็นห้องอาหารที่มีความเป็นมายาวนานครับ เริ่มเปิดตั้งแต่ปี 2501 ตกแต่งตามสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล ประดับประดาด้วยแชนเดอเลียร์ที่สวยงามและประณีตมาก ว่ากันว่าอาหารที่นี่มีการพัฒนาสูตร ครีเอทอย่างไม่หยุด มีการคิดค้นสูตรให้ลึกล้ำขึ้นไปทุกปีๆ เน้นความพิถีพิถันในการปรุงอาหารแต่ละจานรสชาติเป็นเลิศ เมนูรังสรรค์ออกมาอย่าง sophisticated จึงไม่แปลกใจเลยที่จะได้มิชลินสตาร์ 2 ดาวมาอย่างง่ายดาย

The Allium Bangkok

โดดเด่นมากครับตั้งแต่ออกมาจากลิฟต์ ชั้น 3 ณ โรงแรม The Athenee ด้วยประตูสีแดงสด กับวงกบเนี้ยบ ๆ ที่ต้อนรับพวกเราอยู่ 

ด้านในต้องบอกว่า photogenic มากๆ เพราะตกแต่งออกแบบสไตล์ฝรั่งเศสแนวใหม่ ร่วมสมัย นำเสนออาหารตะวันตกชั้นสูง modern เล่นกับสีแดง ไม้ และโลหะ 

ความน่ารักที่สุดน่าจะเป็นเชฟครับ Chef Roxanne Lange เป็นเชฟที่มีอายุน้อยที่สุดในโรงแรมคือ มาจากเนเธอร์แลนด์ เป็นผู้มีประสบการณ์ในการทำงานในร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายแห่งในยุโรป ผสมผสานการคัดวัตถุดิบชั้นดีส่งตรงจากยุโรปร่วมกับวัตถุดิบผลิตผลเกษตรอินทรีย์ที่ผลิตในประเทศไทย และพืชผักบางชนิดยังปลูกในสวนเล็ก ๆ ของโรงแรมอีกด้วย 

ชื่อคอร์สก็น่ารักมากๆเช่นกัน ชื่อ Memoirs of Home เป็นการเล่าเรื่องราวของเชฟในวัยต่างๆ กับแรงบันดาลใจของแต่ละจาน เนื้อเรื่องละมุนมาก เชฟมีความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของแต่ละจานมาก ทำให้ presentation ดูดี สร้างสรรค์ และละมุนในทุกจาน พูดถึงในส่วนของอาหารก็เช่นกัน อร่อยมาก จะดีมากๆถ้าทานกับ Wine Pairing 

Recommended – French Moulard Duck Liver / Spanish Pyreness Iberico Lamb Rack
ทั้งสองเมนูนี้คือที่สุดของตับเป็ด และ แลมป์นะครับ ทุกวันนี้ยังจำรสสัมผัสคำแรกในปากได้อยู่เลย 

Cocotte Farm Roast & Winery 

Recommended – Baby Chicken
ที่นี่เนื้อดีมากครับ ควรลองอย่างยิ่ง อีกตัวที่ควรลองมากคือ Baby Chicken คือไก่อบทั้งตัว โดยจะใช้ไก่สาวจากโครงการหลวงอายุ 145 วัน เนื้อแน่น แต่นุ่ม อร่อยมากจริง ๆ ถือเป็นเมนูที่ขายดีที่สุดของร้านครับ 

อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 อีกร้านที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบบอกไม่ถูกครับสำหรับที่นี่ ร้าน Cocotte Farm Roast & Winery เป็นร้านสไตล์ฝรั่งเศสที่มีความคันทรี่ ผสมความดิบแบบ modern rustic ที่โดดเด่นมากของร้านจะเป็นเรื่องวัตถุดิบจากธรรมชาติ ซึ่งเน้นจากโครงการหลวงเสียส่วนใหญ่ 

LE PETITE

แฟน novel เรื่อง The Little Prince หรือ Le Petite Prince คงจะคุ้นหูและรู้จักกันเป็นอย่างดีครับ ครั้งนี้โรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit ได้นำเอา Le Petite Chef มาทำอาหารให้พวกเราทาน

Sheraton Grande Sukhumvit, A Luxury Collection Hotel, Bangkok 

ด้วยเทคนิคแสงสี projection mapping ถือเป็นการรับประทานอาหารในแง่มุมใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจดีเหมือนกัน เหมือนได้ดูโชว์ 3D Animationไปรอบโต๊ะขณะนั่งรับประทานอาหาร 

ในระหว่างอาหาร จะมีพ่อครัวตัวจิ๋วขนาดไม่ถึง 1 cm ออกมาทักทายและสาธิตวิธีการปรุงอาหารของแต่ละเมนู แต่ละจานเหนือความคาดหมาย อร่อยมาก โดยเฉพาะ main ที่เป็น lobster ที่คัดมาแบบสดๆอบกับซอสมอร์เนย์ textureดี ฉ่ำมากครับ ควรค่านะครับ ลองไปชิมกันดู 

Scarlett Bangkok

SCARLETT WINE BAR & RESTAURANT ตั้งอยู่ใน Pullman Hotel G เป็น Rooftop ห้องอาหารฝรั่งเศส ตกแต่งแบบ Vogue ผสม Newyork style ที่มีความเท่ หรูหรา และ masculine 

ด้วยความสูงที่ชั้น 37 ทำให้สามารถชื่นชมทัศนียภาพของกรุงเทพฯ ได้กว้างไกลแบบพาโนรามา สามารถเพลิดเพลินกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และแสงสีในยามค่ำคืนได้อีกด้วย ครัวเป็นแบบเปิดโชว์ให้เห็นการทำอาหารกันแบบ real time

แนะนำของหวานที่นี่กับ Grand Marnier ‘Soufflé’ รสชาติ orange liquor เปรี้ยวๆ หวาน ๆ หอมกลิ่นไหม้นิด ๆ

Recommended – แนะนำ Dry-aged Beef ของที่นี่ครับ จากห้อง dry age ของร้านเอง ผมประทับใจ Australian Wagyu Prime Rib มากครับ บ่มนานประมาณ 4-6 สัปดาห์ ใส่ในบ็อกซ์แบบนี้ เปิดออกมาจะเป็นควันของ smoked apple wood หอมมากครับ ก่อนจะเผยให้เห็นตัวเนื้อด้านใน รสชาติดีมาก funk มาก เสิร์ฟพร้อม black pepper, blue cheese และ Bearnaise sauce 

จบไปแล้วครับ กับ ห้องอาหารที่ผมรวบรวมมาถึง 15 ที่ในโพสต์นี้ มีร้านไหนโดนใจคุณบ้างหรือเปล่าครับ?

แน่นอนครับ เรารับประทานอาหารอร่อยแค่ไหนก็ได้ แต่ต้องรู้จักการควบคุมอาหารด้วยไปในตัว ควรหลีกเลี่ยงอาหารหวาน ทอด มัน และเค็ม เหล่านี้เป็นประจำแบบต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพ ควรคำนึงไว้ด้วย จะได้เก็บร่างกายไปรับประทานอาหารอร่อยๆไปได้ยาวๆนะครับ

พบกันใหม่คอนเทนต์หน้า วันนี้ลาไปก่อนครับ
รัก, เปียง

#SEXYDISH
#PYONGDOCTOR